ศบ.ทก. ยันผลสอบวางทุนระเบิดเป็นของใหม่ จ่อฟ้องกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา

ข่าวทั่วไป Monday July 21, 2025 11:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จากเหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ3 นาย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยก่อนเป็นประธานการประชุม ศบ.ทก.ชุดใหญ่ว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารี ได้เข้าสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมอย่างละเอียด

และจากการตรวจสอบ 3 วัน พบว่า มีการวางอีก 2 จุด รวม 8 ทุ่น และเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN 2 จากประเทศรัสเซีย ซึ่งประเทศไทยไม่เคยมีใช้งาน ดังนั้นเป็นสิ่งยืนยันว่าเป็นของประเทศอื่น นอกจากนี้ยังพบว่า จุดที่วางทุ่นระเบิดได้เอาเศษวัชพืชมาปกคลุม ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นของใหม่ และส่วนประกอบของทุ่นระเบิดที่เป็นโลหะยังไม่เป็นสนิม ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังทำการตรวจค้นจุดอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ซึ่งการประชุม ศบ.ทก.วันนี้จะรับทราบรายงานทั้งหมดว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

พล.อ.ณัฐพล กล่าวถึงมาตรการตอบโต้ว่า ศบ.ทก. จะพิจารณาและรายงานให้รัฐบาลทราบต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการออตตาวา ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนี้ ดังนั้นในนี้ไทยจะต้องทำสำนวนให้รอบคอบ เพื่อให้ศาลได้พิจารณาหลักฐานและรับฟ้องได้อย่างชัดเจน ส่วนตัวจึงอยากขอให้เข้าใจการทำหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐว่าเหตุใดจึงล่าช้า เพราะต้องทำงานตามขั้นตอน หากทำพลาดแล้วประชาชนอาจจะตำหนิตนได้

พล.อ.ณัฐพล ยืนยันว่า กัมพูชาทำผิด 2 กรณีอย่างชัดเจน คือ การวางทุ่นระเบิดใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สมาชิกออตตาวาต้องไม่ทำ และ การที่กัมพูชายังมีทุ่นระเบิดใหม่ในครอบครอง ซึ่งตามข้อตกลง สมาชิกต้องทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมด นอกจากนี้ ไทยจะประท้วงกัมพูชาโดยตรง พร้อมส่งข้อมูลไปยังประเทศที่ให้เงินสนับสนุนกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อให้พิจารณาตัดงบสนับสนุนในส่วนนี้

ส่วนประเด็นที่กัมพูชาวางระเบิดโดยอ้างอิงแผนที่ของตนเองนั้น ไม่ใช่ประเด็นที่ไทยสนใจ เพราะไทยยึดมั่นในแผนที่และอธิปไตยของเรา หากกัมพูชาต้องการอธิบายว่าเป็นแผ่นดินของตนเอง ก็ต้องเข้าสู่กลไกคณะกรรมการ JBC และตั้งข้อสังเกตว่า การที่สมเด็จฮุนเซนแสดงความต้องการเข้าสู่กระบวนการ JBC แต่กลับใช้มวลชนกดดันบริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นการแสดงออกที่ไม่จริงใจ ซึ่งเรื่องนี้จะมีการหารือกันในที่ประชุม ศบ.ทก. ด้วย

สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวบริเวณปราสาทตาเมือนธม พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า มีข้อตกลงให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายละ 7 คนประจำการ หากพบการยั่วยุ ทหารจะเชิญออกจากพื้นที่ พร้อมเตรียมแผนรับมือหากกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ