ไทย-กัมพูชา: โฆษกรัฐเผย ทหารกัมพูชายิงกระสุนปืนใหญ่ตกบ้านพลเรือนไทยตาย 1 เด็ก 5 ขวบสาหัส

ข่าวทั่วไป Thursday July 24, 2025 12:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับรายงานจากที่ประชุม ศบ.ทก. และ ผู้แทนกองทัพบกว่า จากข้อมูลและพยานหลักฐาน พบว่าทหารกัมพูชาได้เปิดฉากใช้อาวุธก่อน โดยมีการบินโดรน (อากาศยานไร้คนขับ) เข้ามาในพื้นที่ของประเทศไทยเพื่อยั่วยุ จากนั้น ทหารกัมพูชาได้เปิดฉาก ยิงเข้าใส่ทหารไทย ซึ่งกัมพูชามีการใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้จรวดหลายลำกล้องขนาด122 มม.( จลก. BM 21) ยิงเข้าใส่พลเรือนไทยที่ชุมชนบริเวณชายแดนอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ กระสุนฝ่ายกัมพูชา ตกใส่ บ้านประชาชนคนไทย โดยมีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย และเด็กอายุ 5 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมคนในครอบครัวอีก 2 คน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองได้อพยพประชาชนในพื้นที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ขณะที่ทหารไทยได้รับรายงานว่ามีบาดเจ็บกว่า 7 นาย

โดยที่ประชุม ศบ.ทก.ได้รับรายงานว่ากองทัพไทยได้ตอบโต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ โดย ศบ.ทก. ได้ให้กองทัพส่วนหน้าสามารถดำเนินการตัดสินใจในหน้างานได้ ส่วนการปิดด่านชายแดนได้ปิดทั้งหมด โดยดำเนินการปิดมาตั้งแต่ ช่วง 8 โมงเช้าวันนี้แล้ว

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการลดระดับทางการทูต โดยให้เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศ และให้ส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กลับประเทศ

ส่วนการประท้วงในองค์กรต่าง ๆ ได้มอบให้ กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยถูกละเมิด และถูกยั่วยุ และสร้างสถานการณ์อย่างไรบ้างตลอด กว่า 7 เดือนที่ผ่านมาจากฝ่ายกัมพูชา โดยให้เตรียมพยานหลักฐาน ตั้งแต่มาขุดสนามเพาะและกลบ และถอนกำลังออกไป โดยทิ้งกับระเบิดไว้จำนวนมาก และพยานหลักฐานที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บสาหัสว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดใหม่ ดังนั้นเรายกระดับการตอบโต้ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

  • ศบ.ทก. ชี้กัมพูชามุ่งเป้าโจมตี "โรงพยาบาล" ฝั่งไทย ยกระดับมาตรการควบคุมชายแดน

ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดย พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แถลงอัพเดท 4 ประเด็นสำคัญต่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

โดยล่าสุด กัมพูชา ใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณพื้นที่พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย โดย 1 ในนั้นเสียชีวิตแล้ว ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานว่ามีการโจมตีโรงพยาบาลในฝั่งไทยด้วย

สำหรับสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้

- 07.35 น. กัมพูชา ได้ใช้โดรนบินตรวจเหตุการณ์การวางกำลังของฝ่ายไทย บริเวณปราสาทตาเมือน จากนั้นกัมพูชาได้เริ่มเคลื่อนไหวด้วยการนำอาวุธเข้าประจำการหน้าแนวลวดหนาม พร้อมกำลังพล 6 นาย อาวุธครบมือ รวมทั้ง RPG เคลื่อนมายังแนวหน้า ซึ่งฝ่ายไทยมองว่าสถานการณ์ไม่น่าจะปลอดภัย จึงได้พยายามตะโกนเจรจา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

- 08.20 น. กัมพูชา ได้เริ่มเปิดฉากยิงตรงข้ามฐานหมูป่า ทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ห่างไป 200 เมตร ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้ จากนั้นสถานการณ์ได้ขยายพื้นที่ไปตามแนวชายแดนต่าง ๆ อีก 6 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาควาย, ช่องบก, เขาพระวิหาร บริเวณห้วยตามาเรีย ภูมะเขือ, ช่องอานม้า และช่องจอม

ปัจจุบัน กัมพูชาได้ใช้อาวุธหนัก เช่น BM21 และปืนใหญ่ขนาด 122 มิลลิเมตร ทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนฝ่ายไทย รวมทั้งการสูญเสียชีวิตของประชาชนไทยด้วย ซึ่งนอกจากบ้านเรือนประชาชนแล้ว ยังได้มีการโจมตีในพื้นที่สาธารณะ เช่น ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และข่าวล่าสุด มีการโจมตีโรงพยาบาลของไทยด้วย

ฝ่ายไทยได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย แต่ก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็กชาย วัย 5 ปี และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ในพื้นที่ชุมชนบริเวณพนมดงรัก จ.สุรินทร์

ประเด็นที่ 2 ฝ่ายไทยได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบกลาโหม พ.ศ.2551 มาตรา 39 โดยให้กองทัพไทยจัดตั้งศูนย์บัญชาการทางทหารในแต่ละระดับชั้นขึ้น ตั้งแต่ยามปกติ เพื่อติดตามสถานการณ์และควบคุม อำนวยการ และสั่งการการปฏิบัติ โดยศูนย์บัญชาการทางทหารนี้ มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้บังคับบัญชา สามารถดำเนินการในการใช้กำลังทางทหารในการปฏิบัติการทางทหารได้

ประเด็นที่ 3 การดำเนินการในส่วนของ ศบ.ทก. เดิมมีมาตรการเปิด-ปิดด่าน อยู่ในระดับที่ 2 คือจำกัดคนและจำกัดเวลา แต่ล่าสุดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องยกระดับขึ้นเป็นระดับที่ 4 ในการควบคุมชายแดน จุดผ่านแดน กล่าวคือปิดด่านการเข้าออกทุกด่านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

ประเด็นที่ 4 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รายงานการจับตานักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางโดยเครื่องบิน เพื่อไปเล่นการพนันตามแนวชายแดน และเดินทางกลับเข้าไทยทางช่องทางบกตามแนวชายแดนต่าง ๆ ซึ่งทางการได้รวบรวมและติดตามพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยจะเข้มงวดกับพฤติกรรมของกลุ่มเหล่านี้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับช่วงนี้ แนวชายแดนมีการคุมเข้มไม่สามารถเดินทางกลับผ่านช่องทางทางบกได้ จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่ยังมีพฤติกรรมนี้ ให้งดการเดินทางในลักษณะนี้

ทั้งนี้ ในเวลา 14.00 น. จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) วาระพิเศษ เพื่อเป็นการประเมินสถานการณ์และกำหนดแนวทางในการดำเนินการที่ชัดเจนต่อสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ