
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรมโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ดิฉันขอย้ำและยืนยันในแถลงการณ์ของรัฐบาล ว่าการกระทำของกัมพูชา ถือเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง ขัดต่อหลักสันติวิธีภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและตามหลักมนุษยธรรมที่ประเทศไทยถือปฏิบัติมาโดยตลอด
สถานการณ์ความรุนแรงเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ต้องการและพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เกิดขึ้น แต่เมื่อฝ่ายตรงข้ามเปิดฉากยิงก่อน ก็จึงจำเป็นต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาดและเหมาะสม
ถึงแม้ดิฉันจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ดิฉันได้รับฟังการรายงานและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และทำในสิ่งที่ดิฉันทำได้อย่างเต็มความสามารถ ดิฉันขอส่งกำลังใจและความห่วงใยไปยังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานและพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เชื่อว่าทุกกลไกของรัฐบาล พร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของฝ่ายความมั่นคงและดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรี รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์เยียวยาสำหรับผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศได้ใช้ทุกช่องทางสื่อสารกับประชาคมโลก เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงถึงสาเหตุความขัดแย้ง ซี่งเกิดจากการที่รัฐบาลไทยเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ ทำลายเครือข่ายผลประโยชน์มูลค่ามหาศาลซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้มีอำนาจของกัมพูชา เพื่อปกป้องประชาชนไทย และอีกหลายประเทศที่เกิดความเสียหายจากขบวนการนี้ ดิฉันเชื่อว่านี่อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทางกัมพูชาโกรธหรือไม่
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังได้แสดงหลักฐานความไม่ชอบธรรมของกัมพูชา ทั้งการละเมิดสนธิสัญญา หลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักสิทธิมนุษยชน และความไร้มนุษยธรรมอย่างร้ายแรง เช่น การลักลอบวางกับระเบิด การเริ่มต้นยิงก่อน การโจมตีเป้าหมายพลเรือนทั้งโรงพยาบาลและบ้านเรือน จนมีประชาชนไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ในเวทีระดับนานาชาติด้วย
สถานการณ์นี้ คนไทยต้องผนึกกำลังกัน สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เราจะไม่ยอมแพ้ต่อวิธีการอันชั่วร้าย และจะไม่มีอะไรเอาชนะพลังสามัคคีของคนไทยได้ ข้อเสนอยุติความรุนแรงจากประเทศต่างๆ ดิฉันคิดว่ารัฐบาลพร้อมรับฟัง แต่สิ่งสำคัญคือท่าทีและความจริงใจ ซึ่งที่ผ่านมา เราไม่เห็นความน่าเชื่อถือของกัมพูชาในเรื่องนี้
ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม ดิฉันขอสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยกำลังพลและราษฎรในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ทรงรับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกรายจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ยังความปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของครอบครัวผู้สูญเสียและผู้ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนพสกนิกรไทยทั่วประเทศ
ภายใต้ภารกิจของกระทรวงวัฒนธรรม ดิฉันได้สั่งการเร่งด่วน 2 ภารกิจ คือ
1) งานพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน : ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบการดำเนินงานพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน จะปฏิบัติงานตามหมายรับสั่งจากสำนักพระราชวังด้วยความสมพระเกียรติ และถูกต้องตามโบราณราชประเพณี
2) ภารกิจสนับสนุนอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมายจากจังหวัด อาทิ การดูแลผู้บาดเจ็บ การจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็น ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยาฟื้นฟูจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ ตลอดจนส่งเจ้าหน้าที่เพื่อประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นตามภารกิจของกระทรวง อาทิ โบราณสถานต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อประเมินความเสียหาย และจัดหางบประมาณบูรณะซ่อมแซมต่อไป