กระทรวงการต่างประเทศของไทยออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ระบุว่า เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.20 น. กองกำลังกัมพูชาได้เปิดฉากยิงใส่ฐานทัพทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บทันทีจำนวนสองนาย หลังจากนั้นไม่นาน ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีอย่างไม่เลือกเป้าหมายในดินแดนไทยใน 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
เมื่อเวลาประมาณ 11.54 น. ของวันเดียวกัน โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดสุรินทร์ ถูกโจมตีด้วยการยิงปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชา การกระทำที่รุนแรง ไม่เลือกเป้าหมาย และละเมิดกฎหมายต่อพลเรือนไทยเหล่านี้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงและนำไปสู่การสูญเสียชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์อย่างน่าเศร้าใจ ซึ่งรวมถึงสตรีและเด็ก สถานที่ของพลเรือน โดยเฉพาะโรงพยาบาลและโรงเรียน ก็ได้รับความเสียหายอย่างมากเช่นกัน ทั้งนี้ ณ เวลา 14.00 น. ของวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 การโจมตีดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือน 13 ราย และบาดเจ็บ 46 ราย
ยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีบุคคลพลเรือน สถานที่ของพลเรือน และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะอย่างไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานพยาบาล ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 อย่างชัดเจนและร้ายแรง ทั้งยังเป็นการละเมิดข้อ 19 ของอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่หนึ่ง (การคุ้มครองหน่วยแพทย์และสถานพยาบาล) และข้อ 18 ของอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สี่ (การคุ้มครองโรงพยาบาลฝ่ายพลเรือน) ประเทศไทยขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ ซึ่งขัดต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาเจนีวาอย่างชัดเจน
รัฐบาลไทยได้มีหนังสือถึงประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เพื่อแสดงการประณามอย่างรุนแรงต่อการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงเหล่านี้ เป็นลายลักษณ์อักษรด้วยแล้ว