ไทย-กัมพูชา:ศบ.ทก.เผยสถานการณ์ยังคงตึงเครียดสูง คาดฝ่ายเขมรอาจรุกครั้งใหญ่ก่อนเจรจา

ข่าวทั่วไป Monday July 28, 2025 09:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ไทย-กัมพูชา:ศบ.ทก.เผยสถานการณ์ยังคงตึงเครียดสูง คาดฝ่ายเขมรอาจรุกครั้งใหญ่ก่อนเจรจา

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รับทราบรายงานบันทึกเหตุการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.00 น.

ตามรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งพบว่ามีการปฏิบัติการในพื้นที่สำคัญจำนวน 7 แห่ง (ลดลงจากวันแรก 3 แห่ง) โดยมีรายละเอียดดังนี้

ช่องบก: ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังต่อเนื่อง โดยมีกระแสข่าวว่าฝ่ายกัมพูชาส่งกำลังเข้าสนับสนุนพื้นที่ภูมะเขือและช่องอานม้า ฝ่ายไทยยังสามารถควบคุมพื้นที่ได้ตามเส้นปฏิบัติการ 1:50,000 ขณะที่กัมพูชาเคลื่อนกำลังไปทางทิศใต้

ภูผีปราสาทโดนตวล และช่องตาเฒ่า: การตรึงกำลังยังคงดำเนินต่อไป คาดว่าฝ่ายกัมพูชาน่าจะสูญเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะการเสียชีวิตของผู้บัญชาการกองพลที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว

พื้นที่หน้าเขาพระวิหาร: ยังคงมีการสู้รบ โดยกัมพูชาใช้อาวุธหลักคือพลซุ่มยิงจากบริเวณปราสาทพระวิหารเพื่อมุ่งเป้าทำร้ายกำลังพลไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงควบคุมพื้นที่ภูมะเขือตามแผนที่ปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง

ช่องจอม: ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธยิงสนับสนุนโจมตีบ้านเรือนประชาชนไทย พร้อมกันนี้มีความพยายามส่งรถถังขึ้นพื้นที่ช่องกร่าง ห่างจากปราสาทตาควายประมาณ 2 กม.

ปราสาทตาเมือนธม: กัมพูชาปรับขบวนเข้าตีจากทิศตะวันออกตลอดทั้งวัน ฝ่ายไทยจึงถอยร่นและใช้ปืนใหญ่โต้กลับ จนกัมพูชาต้องถอนกำลัง

เหตุการณ์สำคัญ: วันที่ 27 ก.ค. 68 เวลา 06.30 น. กัมพูชายิงจรวดจากสนามบินกรุงสำโรง 4 นัด ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนไทยเสียหาย 2 หลัง และสัตว์เลี้ยงตาย 5 ตัว

ฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้ตามแนวเส้นปฏิบัติการ 1:50,000 ขณะที่ฝ่ายกัมพูชายังพยายามรุกในหลายจุด เช่น ช่องตาเฒ่าเขาพระวิหาร ภูมะเขือ ช่องจอม ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือน

การปฏิบัติของฝ่ายกัมพูชานั้น ใช้อาวุธอย่างไม่มีรูปแบบ ไม่เป็นไปตามกฎการปะทะ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์

ส่วนสถานการณ์ยังคงตึงเครียดอย่างสูง และคาดว่ากัมพูชาอาจเตรียมปฏิบัติการครั้งใหญ่ก่อนเข้าสู่การเจรจา

เหตุสลดล่าสุด: กัมพูชายิงจรวด BM-21 ตกในพื้นที่ ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเหตุให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่ง รพ.ศรีสะเกษ เพื่อเข้ารับการรักษาแล้ว

สรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบ (ณ วันที่ 27 ก.ค. 2568)

1. พลเรือน

เสียชีวิต: 14 ราย

บาดเจ็บสาหัส: 12 ราย

บาดเจ็บปานกลาง: 12 ราย

บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย

รวมทั้งสิ้น: 51 ราย

2. ทหาร

เสียชีวิต: 8 นาย

บาดเจ็บ: 103 นาย

รวมทั้งสิ้น: 111 นาย

การอพยพประชาชน มีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงเข้าสู่ศูนย์พักพิงใน 7 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 139,646 คน (เพิ่มขึ้น 3,720 คน) ดังนี้:

อุบลราชธานี: 16,816 คน

ศรีสะเกษ: 62,691 คน

สุรินทร์: 39,104 คน

บุรีรัมย์: 10,755 คน

สระแก้ว: 4,076 คน

จันทบุรี: 450 คน

ตราด: 5,754 คน

กองทัพไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบจากการที่ฝ่ายกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย และขอประณามการใช้อาวุธโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย อันเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน

ขอความร่วมมือประชาชนและสื่อมวลชน งดเผยแพร่ภาพผู้เสียชีวิตของฝ่ายตรงข้าม และงดเปิดเผยข้อมูลทางทหาร เพื่อความมั่นคงของชาติร่วมกัน

กองทัพไทยขอยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและเสียสละ เพื่อ ปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย อย่างถึงที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ