ไทย-กัมพูชา: รัฐบาลจ่อยื่นจดหมายฟ้องอาเซียน-สหรัฐ-จีน ประจานกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

ข่าวทั่วไป Tuesday July 29, 2025 12:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ 7 จังหวัดตั้งแต่หลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา รัฐบาลได้รับรายงานว่ากัมพูชายังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในหลายพื้นที่ ทำให้ล่าสุดต้องเลื่อนประชุมระดับกองทัพของทั้ง 2 ฝ่ายออกไปก่อนจากกำหนดเดิมในช่วงเช้านี้ โดยมอบอำนาจให้กองทัพบกเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมว่าจะเลื่อนไปเป็นเมื่อใด

"เดิมจะต้องคุยกัน 7 โมงเช้า แต่ปรากฎว่าเมื่อคืน เสียงปืนยังดังอยู่ เขาก็เกรงว่าถ้าข้ามเข้ามาประชุม หรือเราข้ามไปประชุมฝั่งกัมพูชาแล้ว ไม่รู้จะเกิดอะไร แม่ทัพภาค 1 แม่ทัพภาค 2 ของเราไปก็ไม่แน่ใจจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนแม่ทัพภาค 4 ภาค 5 ของเขมรเขาก็ไม่แน่ใจ จึงเลื่อนเวลาไปก่อน ก็เลยจะประชุม 10 โมงวันนี้ แต่พอ 10 โมง ก็ยังประเมินสถานการณ์ไม่ได้ว่าเสียงปืนขณะนี้จะเงียบลง แต่ต้องประเมินว่าตกลงคุณจะมาหาผม หรือผมจะไปหาคุณ กองทัพบกจึงขอเลื่อนประชุมออกไปก่อน" นายจิรายุ กล่าว

สำหรับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงจากทางฝ่ายกัมพูชานั้น รัฐบาลไทย โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ย้ำให้กองทัพปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนไทยอย่างเต็มที่ โดยขอให้ทหารตรึงกำลังไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดนจะดีขึ้น ซึ่งถือเป็นการรักษอธิปไตยของประเทศไทย และดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดน

พร้อมกันนั้นรัฐบาลไทยจะทำหนังสือแจ้งให้ประเทศผู้สังเกตการณ์ในการหารือข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชาที่ประเทศมาเลเซียวานนี้ว่ากัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงกับไทย

"รัฐบาลไทยจะทำเอกสารส่งไปให้กับประเทศผู้สังเกตการณ์ ว่ากัมพูชายังละเมิดข้อตกลง ด้วยการยิงหลังเที่ยงคืน ในรูปแบบไหน และอย่างไร" โฆษกรัฐบาล ระบุ

ขณะที่พบว่าสื่อกัมพูชานำเสนอข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยระบุว่ากองทัพกัมพูชาได้หยุดยิงแล้ว แต่ก็เป็นสิทธิที่กัมพูชาจะชี้แจง แต่กองทัพไทยยืนยันว่าจะยังตรึงกำลังเพื่อรักษาอธิปไตยอย่างต่อเนื่อง

ส่วนการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการปฏิบัติภารกิจของกองทัพ และล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ย้ำใน 4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้

1. ให้กองทัพรักษาอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างเต็มที่

2. ย้ำเรื่องการเรียกเอกอัครราชทูตไทยในกัมพูชากลับประเทศ และส่งกลับเอกอัครราชทูตกัมพูชากลับประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว

3. ให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดน ส่วนการจะอพยพประชาชนกลับบ้านเรือนนั้น ขอให้รอ ศบ.ทก. ตรวจสอบสถานการณ์ให้เรียบร้อยก่อนหลังจากลงพื้นที่ในวันนี้

4. ให้ ศบ.ทก. ประชุมต่อเนื่อง โดยหากมีสถานการณ์เร่งด่วน สามารถชี้แจงกับประชาชนได้ทันที

"เราเดินแนวทางกองทัพแบบสุภาพบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติภารกิจทั้งทางอากาศ ทางบก หรือทางใดก็แล้วแต่ เราทำงานในลักษณะกองทัพที่มีความเป็นสุภาพบุรุษทางการทหาร จะเห็นว่าเป้าหมายต่าง ๆ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ไทยไม่เคยลงในจุดของพลเรือนของกัมพูชา ซึ่งในทางกลับกันมีหลักฐานประจักษ์ไปทั่วโลกว่าเราโดนกระทำมาอย่างต่อเนื่อง" โฆษกรัฐบาล ระบุ

อย่างไรก็ดี จากการเป็นตัวกลางเจรจาของนายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียนนั้น ไทยขอยืนยันว่าสันติภาพและเสรีภาพ ย่อมจะเกิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลังจากช่วงบ่ายที่ไทยจะส่งหนังสือประท้วงไปใหักับประเทศผู้สังเกตการณ์แล้ว ก็จะมีการนำรายละเอียดเข้าสู่การหารือของที่ประชุม ครม. และศบ.ทก. ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ