ไทย-กัมพูชา: ไทยประกาศความพร้อมประชุม GBC 4 ส.ค.รอหนังสือเชิญ เรียกร้องกัมพูชาหยุดยิงทุกรูปแบบทันที

ข่าวทั่วไป Wednesday July 30, 2025 14:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลประชุม ศบ.ทก.ว่า จากที่มีการตกลงหยุดยิงทั้ง 2 ฝ่ายตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันยังปรากฏการคุกคามจากกัมพูชาถึง 4 เหตุการณ์ ทาง ศบ.ทก.ขอเน้นย้ำว่าไทยยังคงยึดมั่นความอดทนอดกลั้นในสันติภาพ และปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม แต่หากมีการละเมิดต่ออธิปไตยก็มีความจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดและเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน

ส่วนไทม์ไลน์การหารือระหว่าง ไทย-กัมพูชา ตามที่มีการตกลงกันไว้ คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ยืนยันว่าขณะนี้ฝ่ายไทยมีความพร้อมเข้าร่วมประชุมรอเพียงทางฝ่ายกัมพูชาส่งหนังสือเชิญ ซึ่งฝ่ายไทยมีความพร้อมในรายละเอียดและเนื้อหาในการเจรจา นอกจากนี้ การพูดคุยในระดับแม่ทัพภาคเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น มีข้อตกลงในภาพรวมถึงแนวทางการปฎิบัติร่วมกันของหน่วยทหารทั้งสองฝ่ายในพื้นที่ คาดว่าจะยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่สันติภาพในภูมิภาค

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ส่วนตัวเลขของผู้อพยพนั้น กระทรวงมหาดไทยได้รายงานว่ามีทั้งหมด 190,104 ราย ที่อยู่ในศูนย์พักพิงทั้งหมด 780 แห่ง ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ยังมีความเปราะบาง จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ซึ่งประชาชนในศูนย์พักพิงจะสามารถกลับบ้านได้ก็ต่อเมื่อภาครัฐยืนยันว่ามีความปลอดภัย

*สธ.อัพเดทยอดบาดเจ็บ-เสียชีวิต

นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ณ วันที่ 30 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. พลเรือนได้รับผลกระทบ 53 ราย เสียชีวิต 15 ราย ที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บาดเจ็บสาหัสมีจำนวน 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย โดยมีผู้ป่วยที่สามารถกลับบ้านได้แล้วทั้งหมด 13 ราย

ส่วนโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 20 แห่ง ปิดบริการทั้งหมด 11 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลน้ำขุ่น โรงพยาบาลน้ำยืน โรงพยาบาลนาจะฉลวย โรงพยาบาลกันทรลักษณ์ โรงพยาบาลภูสิงห์ โรงพยาบาลกาบเชิงโรงพยาบาลพนมดงรัก โรงพยาบาลปราสาท โรงพยาบาลบ้านกรวด โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ และโรงพยาบาลหันทราย ส่วนอีก 9 แห่งปิดบางส่วน ให้บริการเฉพาะห้องฉุกเฉิน

ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ได้รับผลกระทบจำนวน 144 แห่ง ปิดบริการ 140 แห่ง และเปิดบริการบางส่วน 4 แห่ง สำหรับโรงพยาบาลที่ได้รับความเสียหายตรวจสอบได้ 4 แห่ง เป็นความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา และกำลังอยู่ระหว่างการประเมิน ความเสียหาย อาจจะมีความเสียหายในระดับโครงสร้าง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการซ่อมแซม

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ได้มอบหมายให้ทีมปฏิบัติการทั้งหมด 1,168 ทีม ให้พร้อมดูแลประชาชน โดยมีทีมรูปแบบต่างๆ เช่น MERT, ALS, MCATT, SRRT ปัจจุบันมีทีม MCATT (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team) และบุคลากรด้านสุขภาพจิต เข้าไปคัดกรองประชาชนในศูนย์พักพิงต่างๆ จำนวน 21,430 คน โดยพบผู้ที่มีความเครียดสูงราว 600 คน เสี่ยงฆ่าตัวตาย 142 คน ทั้งหมดได้รับความช่วยเหลือจากจิตแพทย์และ นักจิตวิทยา เป็นการปฐมพยาบาลทางใจ ส่วนผู้มีอาการหนักจะส่งต่อไปยังจิตแพทย์ในโรงพยาบาลจิตเวช หรือส่งไปรักษาแบบผู้ป่วยในต่อไป

*ทหารเสียชีวิตเพิ่ม 1 นาย

ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ขณะนี้มีทหารไทยเสียชีวิตไปอีกหนึ่งนายจากการปะทะกันครั้งล่าสุด

ขณะที่การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ภูมะเขือ ซึ่งทางกองทัพบกได้ชี้แจงอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงเช้า และกระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมเรียกร้องให้กัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงทุกรูปแบบทันที และกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างครบถ้วนและเคร่งครัด และในส่วนโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบกระทรวงการต่างประเทศจะส่งข้อมูลเพิ่มเติม จากเดิมที่ได้ส่งหนังสือประท้วงไปที่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศด้วย

นางมาระตี กล่าวว่า ที่ผ่านมาแต่ละสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ได้แจ้งข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับสถานการณ์และท่าทีของไทย และหลักการที่ไทยยึดถือให้รัฐบาล และองค์การต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือน และเข้าใจจุดยืนของไทยที่ต้องการยุติความขัดแย้งด้วยสันติ และกลับเข้าสู่การเจรจากับกัมพูชา บนพื้นฐานความจริงใจและสุจริตใจ

นางมาระตี กล่าวว่า เรายังมีคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ 4 สำนักงาน คณะผู้แทนถาวรประจำอาเซียน และสถานทูตอีกหลายแห่งที่มีหน้าที่ในกรอบพหุภาคีและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งก็ทำหน้าที่ชี้แจงจุดยืนของไทยในเวทีโลก โดยเฉพาะภายใต้อนุสัญญาต่างๆ เพื่อรักษาท่าที ย้ำบทบาทที่สร้างสรรค์และแสดงความยึดมั่นต่อพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ