ไทย-กัมพูชา: ทบ.ย้ำหลักฐานชัด ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็น PMN-2 เพิ่งติดตั้งใหม่

ข่าวทั่วไป Wednesday August 13, 2025 09:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงปฏิเสธเหตุการณ์ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิด เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 68 บริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งส่งผลให้กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า ฝ่ายไทยยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชายังคงมีทุ่นระเบิดอยู่ในครอบครองจำนวนมาก และได้ลักลอบนำมาวางในพื้นที่ต่าง ๆ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อมุ่งทำร้ายฝ่ายไทย ทั้งที่กัมพูชาเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และได้ให้สัตยาบันตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 แต่กลับนำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบอย่างละเอียดของฝ่ายไทย พบว่า ทุ่นระเบิดที่ใช้ในเหตุครั้งนี้เป็นชนิด PMN-2 ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่พบในหลายพื้นที่ที่กัมพูชาลักลอบติดตั้งเพื่อทำร้ายกำลังพลไทยมาโดยตลอด

โดยข้ออ้างของกัมพูชาว่าพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีวัตถุระเบิดตกค้างจากสงครามในอดีต เป็นเพียงการปฏิเสธที่ขาดน้ำหนัก เนื่องจากหลักฐานเชิงประจักษ์ในทุกจุดเกิดเหตุชี้ชัดว่า พื้นที่โดยรอบบริเวณที่เกิดการเหยียบทุ่นระเบิดจะพบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 อีก 3-5 ลูก ในสภาพที่เพิ่งถูกติดตั้งใหม่อย่างชัดเจน ทั้งที่หากเป็นทุ่นเก่าจากสงครามในอดีต จะเป็นชนิดอื่น ไม่ใช่ทุ่นระเบิดแบบ PMN-2

ดังนั้น ฝ่ายไทยจึงขอเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณะ ทั้งที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้รับฟังข่าวสาร และเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ตามมติคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) กัมพูชา-ไทย เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 68 ข้อ 9 ซึ่งกำหนดให้งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือข่าวปลอม

นอกจากนี้ ขอให้กัมพูชาปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยุติการใช้อาวุธทุ่นระเบิดสังหารบุคคลต่อฝ่ายไทย ซึ่งไม่เพียงเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง แต่ยังเป็นการฝ่าฝืนอนุสัญญาออตตาวาอย่างชัดเจน ทั้งนี้ กองทัพบกยืนยันที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และกติกาสากล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ