
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำยม-น่าน อย่างใกล้ชิด
สำหรับพื้นที่ลุ่มน้ำยม ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นจากมวลน้ำที่ไหลบ่ามาจากภาคเหนือตอนบน และทุ่งบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ Y17 หน้าที่ว่าการอำเภอสามง่าม ระดับน้ำอยู่ที่ +36.74 เมตร (จากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ส่งผลให้มวลน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณตำบลสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมประมาณ 20 ครัวเรือน ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 1 เมตร
โดยขณะนี้ จังหวัดพิจิตร ได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร ติดตั้งเครื่องสูบส่งน้ำแรงดันสูง เพื่อเร่งสูบระบายน้ำออกจากจุดท่วมขัง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรม เนื่องจากเกษตรกรในพื้นที่ได้ดำเนินการเก็บเกี่ยวผลผลิตเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ สำนักงานเกษตรจังหวัด และกรมชลประทานจะลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อไป
ในส่วนของลุ่มน้ำน่าน จากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมขังพื้นที่การเกษตร ซึ่งเป็นไร่ข้าวโพดที่อยู่ริมตลิ่ง บริเวณอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อำเภอตรอน และอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ในวันนี้ได้ทราบว่า ผลจากการปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนนเรศวร ทำให้ระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนนเรศวรลดลงอีก 20 ซม. และขณะนี้สถานการณ์กลับสู่สภาพปกติแล้ว
อย่างไรก็ตาม จุดที่เกิดน้ำท่วมขังที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า เพื่อสูบส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกข้าวจำนวน 2 สถานี ยังคงไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากระดับน้ำยังสูง ในการนี้ สทนช. และจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ประสานขอความร่วมมือจากกรมทรัพยากรน้ำ สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือทดแทนไปพลางก่อน จนกว่าระดับน้ำในแม่น้ำน่านจะลดลงสู่สภาพที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสามารถใช้งานได้
ทั้งนี้ เป็นความห่วงใยจากรัฐบาลที่จะดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ และเตรียมการรองรับปริมาณฝนที่จะตกหนักในหลายพื้นที่ในรอบถัดไป ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงวันที่ 15-17 ส.ค. นี้