Talktime: ตีแผ่ "Double Day" โปรหั่นราคา หรือละครตบตาผู้บริโภค !?

ข่าวทั่วไป Friday August 15, 2025 18:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ไม่ว่าจะเป็น 9.9 / 10.10 / 11.11 หรือวันโปรโมชั่น "Double Day" อื่น ๆ ที่เรากระหน่ำช้อปกันทุกเดือน สรุปแล้วมันลดจริงหรือแค่การตลาด !? เชื่อว่าเสียงในหัวของหลาย ๆ คนคงมีข้อสงสัยเดียวกันว่าโปรโมชั่นนี้มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังแค่ไหน ทำไมลดแต่ละทีมันเยอะจัง ล่อตาล่อใจเหลือเกิน !

"Talk Time" EP. นี้ จะพาไปทอล์คแบบหมดเปลือก ตอบทุกข้อสงสัยคาใจขาช้อปกับ นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด และ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ที่จะมาเฉลยว่า สุดท้ายแล้วลูกค้า หรือ ร้านค้า ใครคือผู้ได้รับผลประโยชน์ตัวจริง !?

๐ โปรโมชั่น "Double Day" ยังเรียกลูกค้าได้อยู่มั้ย !?

โปรโมชั่น Double Day ยังคงเป็นไม้เด็ดวงการ E-Commerce และได้แทรกซึมจนกลายเป็นพฤติกรรมของนักช้อปชาวไทยไปแล้ว สะท้อนได้จาก แม้หลายคนจะเจอสินค้าถูกใจ แต่ก็ยังไม่ซื้อ เลือกที่จะ "รอ" ซื้อในวันโปรโมชั่นดีกว่า !

๐ ทำไมโปรนี้ดันยอดขายถล่มทลาย ?

เสิร์ฟโปรรัว ๆ ไม่พัก ! : ยอดขายในช่วง Double Day จะพุ่งสูงกว่าช่วงวันปกติถึง 2-3 เท่า เพราะก่อนวัน Double Day ก็มีโปรอุ่นเครื่อง หรือวันหลังจากนั้นก็มีโปรอื่นอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ ดังนั้นช่วง 7 วันนี้เรียกได้ว่าผู้ขายและแพลตฟอร์ม ลด แลก แจกแถมกันกระหน่ำ

ยอดการซื้อเฉลี่ยต่อครั้ง (AOV) สูงขึ้น : หลังจากอั้นมานาน นักช้อปทั้งหลายที่อดทนอดกลั้นเพื่อมารอซื้อสินค้าในช่วงนี้ ทำให้มูลค่าการซื้อต่อครั้งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว คุณก็เคยใช่มั้ยล่ะ ?

๐ ลดจริงมั้ยหรือแค่การตลาด !?

คำถามสำคัญที่ขาช้อปทุกคนอยากรู้ !! จากการเก็บข้อมูล พบข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือ

1) การลดราคาที่มีกลยุทธ์ ? : ก่อนวัน Double Day ประมาณ 1-2 สัปดาห์ แบรนด์บางเจ้าจะแอบปรับราคาขึ้น พอถึงวันจริงก็แปะป้ายลด 30-40% นั่นหมายความว่า การลดราคานั้น มันลดจากราคาที่ปรับขึ้นมาแล้ว แม้จะดูเหมือนลดเยอะหลายสิบเปอร์เซนต์ แต่จริง ๆ ทุกอย่างเตรียมตัวมาแล้วนั่นเอง !

2) กลยุทธ์นี้คนใช้เพียบ ! : มีสินค้ากว่า 30% ที่ใช้กลยุทธ์นี้ ซึ่งถือว่าไม่น้อย พูดให้เห็นภาพคือ ถ้าเรากำลังช้อปเพลิน ๆ อยู่ แล้วเลื่อนดูสินค้า 3 ชิ้น ก็มีโอกาสที่ 1 ในนั้นจะใช้วิธีนี้อยู่

3) พบได้ทุกหมวดสินค้า : กลยุทธ์นี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มสินค้าใดสินค้าหนึ่ง แต่พบได้หมด ทั้งอิเล็กทรอนิกส์, บิวตี้ และอื่น ๆ อีกมากมาย กระจายไปทั่วทุกกลุ่ม

แต่ข่าวดีก็คือ ทุกวันนี้ผู้บริโภคจะไม่ยอมเป็นเหยื่ออีกต่อไป ! หลายคนเริ่มเอ๊ะ ก่อนซื้อ มีการส่องราคาล่วงหน้าบ้างแล้ว คุณล่ะ ดูยัง !?

๐ ก่อนช้อป ต้องเช็ค !!

เช็คราคาจริง อย่าดูแค่ % : อย่าเพิ่งดีใจกับตัวเลขส่วนลดกระหน่ำ แต่อาจต้องตรวจสอบล่วงหน้า ดูว่าสินค้าที่เราอยากได้ ราคาปกติมันอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วในวัน Double Day มันลดราคาลงจริงหรือเปล่า จะได้ไม่โดนหลอก

อ่านเงื่อนไขการคืนสินค้าให้ละเอียด : สินค้าโปรโมชั่นอาจมีเงื่อนไขพ่วงมาว่า ห้ามคืนสินค้า หรือบางร้านบังคับให้ต้องมีคลิปวิดีโอตอนแกะกล่องเพื่อใช้เป็นหลักฐานการคืนสินค้า ซึ่งนี่มันเอาเปรียบผู้บริโภคเกินไปไหมนะ ?

๐ การตลาดแบบนี้ทำผู้บริโภคเหนื่อย !?

การตลาดแบบนี้ทำขาช้อปเหนื่อยพอตัว เพราะต้องมานั่งเช็คราคาสินค้ากันยาว ๆ ที่สำคัญยังไม่มีกฎหมายหรือหน่วยงานที่เข้ามาคุมเรื่องนี้โดยตรงอีก !

ทำไมถึงคุมยาก ? เหตุผลก็มีอยู่ว่า :

สาเหตุของการขึ้นราคามีมากมาย : การปรับราคาขึ้น-ลงอาจมีหลายปัจจัย เช่น ค่าเงิน หรือต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้ยากที่จะบอกได้ว่า อันไหนขึ้นเพราะความจำเป็น อันไหนขึ้นเพราะเตรียมจัดโปร !

สินค้าเยอะมหาศาล : สินค้าใน E- Commerce มีเป็นร้อยล้านรายการ ซึ่งไม่มีหน่วยงานไหนตามเช็คได้ทั้งหมด แม้กระทั่งกระทรวงพาณิชย์ ก็ควบคุมราคาสินค้าได้เพียงบางรายการเท่านั้น

พ่อค้าแม่ค้าหลากหลายสัญชาติ : ไม่ใช่แค่คนไทย แต่ยังมีคนจีนและต่างชาติมาขายของด้วย การจะไปควบคุมคนกลุ่มนี้จะทำได้อย่างไร

๐ ออกกฎหมายยังไงให้ฮีลใจผู้บริโภค !?

ตอนนี้ภาครัฐกับแพลตฟอร์ม E- Commerce ยักษ์ใหญ่อาจจะยังทำงานร่วมกันไม่เต็มที่จนเกิดช่องโหว่มากมาย ดังนั้นทั้งสองภาคส่วนควรจับมือกันอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหา โดยมีแนวทางดังนี้

1) สินค้าที่จำหน่ายต้องได้รับการรับรองคุณภาพ : อาทิ ของกิน หรือยา ในปัจจุบัน มีคนสวมรอยใช้อย.ปลอมกันเพียบ ขาช้อปบางรายเห็นว่ามีเลขอย.ก็อาจจะไม่ได้สืบต่อ ที่สำคัญก็คือเลขที่โชว์ในแพลตฟอร์ม ไม่ได้ลิ้งไปเช็คกับทางอย.ได้ทันทีนั่นเอง

ดังนั้นรัฐควรออกกฎหมายให้แพลตฟอร์มมีบทลงโทษกับร้านค้าเหล่านี้ เช่น สั่งปิดร้านได้ทันที เป็นต้น

2) จัดการสินค้าปลอม : การช้อปออนไลน์ทำให้เราไม่ได้เห็นของจริง ทำให้เช็คยากมากว่าของแท้หรือของปลอม ดังนั้นรัฐจึงควรทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มกำหนดบทลงโทษร้านค้าเหล่านี้อย่างจริงจังเช่นกัน

3) การดูแลหลังการขาย : ถ้าสินค้ามีปัญหา ไม่ตรงปก ควรคืนได้ในเหตุผลที่เหมาะสม แต่ทุกวันนี้แพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางเหมือนจะทำหน้าที่นั้นได้ไม่เต็มที่ เพราะอะลุ่มอล่วยให้กับฝั่งผู้ขาย ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของตัวเอง แต่ผู้บริโภคกลับดูแลไม่ทั่วถึง ดังนั้นควรมีบทลงโทษแก่ร้านค้าเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

๐ บทสรุป

โปรโมชั่น Double Day ยังคงปังไม่หยุดและกลายเป็นพฤติกรรมการช้อปของคนไทยไปแล้ว

ยอดขายพุ่งกระฉูด 2 - 3 เท่า ในช่วง 7 วันที่มีโปรโมชั่น Double Day

มีร้านค้าที่ใช้กลยุทธ์ปรับราคาขึ้นก่อนวันโปร 1-2 สัปดาห์ แล้วค่อยมาลดราคาในวันจริง ซึ่งพบได้ในสินค้ากว่า 30% ในทุกหมวดหมู่

ผู้บริโภคต้องระวัง ควรเฝ้าเช็คราคาจริงก่อนตัดสินใจซื้อ และอ่านเงื่อนไขการคืนสินค้าให้ละเอียด

ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานหรือกฎหมายดูแลเรื่องนี้โดยตรง แต่ในอนาคตหากรัฐและแพลตฟอร์มร่วมมือกันแก้ปัญหา เช่น กำหนดบทลงโทษ อาจช่วยให้ผู้บริโภคช้อปแบบสบายใจมากขึ้นในวัน Double Day

*https://youtu.be/hZwZXCbKR9c


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ