นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ดังนี้
1. รัฐบาลได้ดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง และยังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ ได้แก่
1.1 การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) ซึ่งได้เริ่มแล้วโดยกองทัพภาคที่ 1 และกำลังจะดำเนินการโดยกองทัพภาคที่ 2
1.2 การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ได้กำหนดประชุมระหว่างวันที่ 8-10 ก.ย. 68 ที่จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
1.3 การดำเนินการสังเกตการณ์ของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) โดยทูตทหาร ASEAN แต่ละประเทศ รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วานนี้ (18 ส.ค. 68)
2. ขณะนี้ยังมีรายงานจากฝ่ายความมั่นคงว่ามีอากาศยานไร้คนขับ หรือ "โดรน" แปลกปลอมเพิ่มขึ้นมากจนผิดปกติ ขอให้ ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ร่วมกับกระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนดมาตรการที่เหมาะสมและแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน
3. ศูนย์พักพิงชั่วคราวในจังหวัดชายแดนที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้ได้ปิดลงแล้ว ประชาชนได้เดินทางกลับเข้าบ้านพักแล้ว ให้พื้นที่สรุปและสำรวจการให้ความช่วยเหลือต่อไป
4. การเยียวยาตามมติครม. ให้แก่ทหารและพลเรือนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ได้ดำเนินการแล้ว รวมถึงบ้านเรือนที่เสียหายก็ได้รับการช่วยเหลือซ่อมแซมตามลำดับ สำหรับการดูแลด้านจิตใจ กระทรวงสาธารณสุขต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ส่วนการเยียวยานอกเหนือจากนั้น ได้สั่งการให้คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินการต่อไป
5. เรื่องสงครามข่าวสาร ซึ่งมีการสร้างข่าวเท็จ และสร้างสถานการณ์ ตลอดจนมีข่าวปลอม (Fake news) ถึงแม้ประเทศไทยจะมีเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสารและแสดงความเห็น แต่ขณะนี้เราต้องการความสามัคคีภายในประเทศ จึงขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ด้านการสื่อสารมวลชนทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกับ ศบ.ทก. ตรวจสอบขจัด Fake news ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ และไม่เป็นผู้ขยายผลเสียเอง โดยประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสหรือตรวจสอบผ่านศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center: AFNC)