สภาผู้บริโภคจี้ BBL เยียวยาแอปล่มยอดเงินหาย-แบงก์ชาติตรวจสอบเอาผิด

ข่าวทั่วไป Wednesday September 3, 2025 15:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สภาผู้บริโภคจี้ BBL เยียวยาแอปล่มยอดเงินหาย-แบงก์ชาติตรวจสอบเอาผิด

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 ผู้ใช้งานจำนวนมากประสบปัญหาระบบแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิง (Mobile Banking) ของธนาคารกรุงเทพ [BBL] ขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบยอดเงินหรือทำธุรกรรมได้ โดยมีผู้บริโภคบางส่วนพบว่ายอดเงินในบัญชีหายไป บางรายยอดเงินติดลบ ขณะที่ธนาคารกรุงเทพได้ประกาศผ่านเพจทางการว่าจะเร่งแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในเวลา 14.00 น. ของวันที่ 2 กันยายน 2568 แต่ล่าสุดในวันที่ 3 กันยายน 2568 แม้บนหน้าเพจทางการและจากการสอบถามคอลเซนเตอร์ของธนาคารจะแจ้งว่าได้แก้ไขและปรับปรุงระบบเรียบร้อยแล้ว แต่กลับยังพบว่ามีผู้บริโภคอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้รับการแก้ไขตามที่ธนาคารชี้แจง

นายโชติวิทย์ เกิดสนองพงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการด้านการเงินและการธนาคาร สภาผู้บริโภค เรียกร้องให้ธนาคารกรุงเทพออกมาชี้แจงสาเหตุของเหตุขัดข้อง และกำหนดมาตรการเยียวยาที่ชัดเจน โดยควรชดเชยให้ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบทุกคนทันที

พร้อมทั้งเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ ธปท. ได้ออกหลักเกณฑ์กำกับดูแลความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Risk) ตั้งแต่ปี 2566 โดยกำหนดให้สถาบันการเงินต้องดูแลระบบ Mobile Banking ไม่ให้หยุดชะงักเกิน 8 ชั่วโมงต่อปี และต้องรายงานผลการประเมินตนเองต่อ ธปท.

"หลักเกณฑ์ดังกล่าวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากเกณฑ์ 8 ชั่วโมงไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใช้บริการออนไลน์มากขึ้น และสังคมได้ก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดแล้ว เหตุขัดข้องครั้งนี้ที่ยาวนานเกินเกณฑ์จึงส่งผลกระทบต่อการใช้บริการพื้นฐานของผู้บริโภคจำนวนมาก หลายรายไม่สามารถชำระค่าอาหารหรือทำธุรกรรมจำเป็นได้ อีกทั้งยังไม่มีการแจ้งเตือนจากธนาคารว่าระบบกำลังประสบปัญหา" นายโชติวิทย์ ระบุ
ทั้งนี้ ตามกฎหมาย หากสถาบันการเงินฝ่าฝืนหรือหากล่มนานเกิน 8 ชั่วโมงต่อปี จะมีบทลงโทษตั้งแต่การตักเตือน การสั่งให้ปรับปรุงแก้ไข ไปจนถึงการปรับสูงสุด 500,000 บาทต่อครั้ง และหากยังไม่ดำเนินการแก้ไขจะถูกปรับเพิ่มอีกวันละ 5,000 บาท

ขณะเดียวกันจากการรายงานของ ธปท. เกี่ยวกับสถิติระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขัดข้องของธนาคารพาณิชย์ ระบุว่าในปี 2567 แอปฯ ธนาคารกรุงเทพ เคยขัดข้องรวม 4 ครั้ง โดยไตรมาส 4/2567 ขัดข้อง 2 ครั้ง นานครั้งละ 1 ชั่วโมง ไตรมาส 3/2567 ขัดข้อง 1 ครั้ง น้อยกว่า 1 ชั่วโมง และไตรมาส 1/2567 ขัดข้อง 1 ครั้ง น้อยกว่า 1 ชั่วโมง ส่วนในปี 2568 เคยขัดข้องแล้ว 1 ครั้งในไตรมาส 2 เป็นเวลาประมาณ 22 นาที

สำหรับสภาผู้บริโภคได้เปิดช่องทางให้ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนสภาผู้บริโภค 1502 เว็บไซต์ https://complaint.tcc.or.th/complaint หรือผ่านหน่วยงานประจำจังหวัดทั้ง 20 แห่งของสภาผู้บริโภค เพื่อรวบรวมข้อมูลและดำเนินการผลักดันเชิงนโยบายหรือกฎหมาย หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการเยียวยาอย่างเหมาะสม

ขณะที่ นายไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่ BBL กล่าวว่า ตามที่เกิดความขัดข้องในระบบงานของธนาคารเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 1 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ระบบงานของธนาคารไม่มีการบันทึกรายการเคลื่อนไหวของเงินฝากบางบัญชีที่ทำรายการระหว่างเวลา 21.06 น. ถึง 23.00 น. ทำให้แสดงยอดเงินในบัญชีของลูกค้าดังกล่าวไม่ถูกต้อง ธนาคารได้ดำเนินการแก้ไขการบันทึกรายการเคลื่อนไหวดังกล่าวในบัญชีของลูกค้าให้ถูกต้องแล้วเสร็จในเวลา 15.30 น. ของวันอังคารที่ 2 กันยายน 2568 โดยรายการดังกล่าวปรากฏเป็น "รายการปรับปรุง (ADJ: Adjustment Item)" ในบัญชีของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีลูกค้าบางรายยังพบว่ายอดเงินในบัญชีของตนติดลบ เนื่องจากมีการทำรายการใช้จ่ายเกินกว่ายอดเงินในบัญชีที่แท้จริง ในระหว่างเวลา 03.00 น. ของวันอังคารที่ 2 กันยายน 2568 จนถึงก่อนเวลาที่ธนาคารจะปรับปรุงรายการเคลื่อนไหวข้างต้นแล้วเสร็จในเวลา 15.30 น. ซึ่งธนาคารมีการแจ้งลูกค้าดังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

นายไชยฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวมิได้เกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์ และธนาคารต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นมา ณ โอกาสนี้ หากลูกค้ามีข้อสงสัยหรือประสงค์จะสอบถามเพิ่มเติม โปรดติดต่อสาขาที่ท่านสะดวก หรือคอลเซนเตอร์ธนาคารกรุงเทพ โทร. 1333 หรือ 66 (2) 645 5555


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ