
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติแนวทางการแก้ไขปัญหานมกล่องค้างสต็อกเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม โดยมีมติอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 800 ล้านบาท ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 500 ล้านบาท และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 300 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อนมกล่องค้างสต็อก ตามปริมาณจำนวนนักเรียนที่แต่ละหน่วยมีนักเรียนได้ดื่มนมในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเพื่อลดความเสียหายจากการทิ้งน้ำนมดิบ และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมไม่ให้เกิดภาวะนมกล่องค้างสต็อก ให้สามารถดำเนินการทั้งระบบต่อไปได้โดยไม่ขาดสภาพคล่อง ขณะเดียวกัน ยังเป็นการรักษาผลประโยชน์ด้านการแปรรูป การผลิต ผลิตภัณฑ์นมของเกษตรกร องค์กรเกษตร เกษตรผู้เลี้ยงโคนม และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม ไม่ให้ผลิตภัณฑ์นมกล่องค้าง สต็อกเกิดความเสียหายและสูญเปล่าประโยชน์
รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า จะทำให้เด็กนักเรียนได้รับการบริโภคนมโรงเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่า 260 วัน ซึ่งนม ถือเป็นอาหารเสริมที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่อเด็กนักเรียนในวัยเรียนอย่างยิ่ง
พร้อมกันนี้ ที่ประชุม ครม. ยังให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ประสาน ติดตาม ประเมินผลการดำเนินการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป