
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเรื่อง "สาธารณสุขไทย สู่อนาคตที่ยั่งยืน" ว่า สถานการณ์ในขณะนี้เราต้องดูแลสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะต้องทำให้ประชาชนสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง เพราะไม่สามารถสร้างสถานพยาบาลเพิ่มได้ทันจำนวนประชากร ซึ่งต้องพยายามที่จะลดปัญหาผู้ป่วยติดเตียง, การสร้างงานให้ผู้สูงวัยเพื่อลดภาระสังคม
หลังจากครม.ชุดใหม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ และเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน และรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ตนจะได้มอบนโยบายให้กับ รมว.สาธารณสุข ซึ่งที่ผ่านมาโชคดีที่ตนได้ดูแลงานของกระทรวง ทำให้ได้สนับสนุนเรื่องการผลิตบุคลากรทางแพทย์อย่างเต็มที่

ปัจจุบันบุคลากรสาธารณสุขของไทยแม้จะมีความเข้มแข็ง แต่กำลังเผชิญภาระงานที่หนัก ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทั้งด้านสุขภาพกายและจิตใจ จนทำให้แพทย์และพยาบาลจำนวนหนึ่งทยอยลาออกจากระบบ ดังนั้น การพิจารณาร่างกฎหมายที่กำหนดชั่วโมงการทำงานของบุคลากรสาธารณสุขซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญ เนื่องจากจะช่วยยกระดับสวัสดิภาพในการทำงาน ทำให้บุคลากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ความนิยมของเด็กรุ่นใหม่ในการศึกษาด้านการแพทย์และพยาบาลมีแนวโน้มลดลง จึงจำเป็นต้องบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างหลายกระทรวง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงแรงงาน เพื่อแก้ปัญหาในเชิงระบบอย่างยั่งยืน