
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 55 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และระดับน้ำล้นตลิ่ง และท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลง รวมถึงเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้น ช่วงวันที่ 25-30 ก.ย. 68
* พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายไม่ทัน รวม 3 จังหวัด
- จังหวัดนนทบุรี (อำเภอเมืองนนทบุรี ปากเกร็ด บางบัวทอง บางกรวย และอำเภอไทรน้อย)
- จังหวัดสมุทรปราการ (อำเภอเมืองสมุทรปราการ พระสมุทรเจดีย์ พระประแดง บางพลี บางบ่อ และอำเภอบางเสาธง)
- กรุงเทพมหานคร (เขตหลักสี่ บางเขน หนองจอก ตลิ่งชัน บางพลัด ลาดกระบัง บางแค และเขตทวีวัฒนา)
*พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม รวม 36 จังหวัด
- ภาคเหนือ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอปาย) เชียงใหม่ (อำเภอสะเมิง และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สาย เชียงของ เชียงแสน และอำเภอแม่จัน) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง เมืองปาน และอำเภองาว) พะเยา (อำเภอเมืองพะเยา) น่าน(อำเภอปัว ภูเพียง แม่จริม เวียงสา และอำเภอสันติสุข) อุตรดิตถ์ (อำเภอท่าปลา) ตาก (อำเภอท่าสองยาง อำเภออุ้มผาง) พิษณุโลก (อำเภอนครไทย) เพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ หล่มสัก และอำเภอหล่มเก่า) และจังหวัดอุทัยธานี (อำเภอบ้านไร่)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ เซกา บึงโขงหลง ปากคาด พรเจริญ และอำเภอศรีวิไล) สกลนคร (อำเภอกุสุมาลย์ พรรณานิคม และอำเภออากาศอำนวย) นครพนม (อำเภอเมืองนครพนม ท่าอุเทน ธาตุพนม นาแก นาทม นาหว้า บ้านแพง ปลาปาก โพนสวรรค์ เรณูนคร วังยาง และอำเภอศรีสงคราม) ชัยภูมิ (อำเภอเมืองชัยภูมิ และอำเภอหนองบัวแดง) มุกดาหาร (อำเภอเมืองมุกดาหาร) อำนาจเจริญ (อำเภอเมืองอำนาจเจริญ และอำเภอชานุมาน) นครราชสีมา (อำเภอครบุรี โชคชัย และอำเภอปักธงชัย) บุรีรัมย์ (อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ชำนิ นางรอง บ้านกรวด ประโคนชัย พลับพลาชัย ลำปลายมาศ และอำเภอหนองหงส์) สุรินทร์ (อำเภอกาบเชิง บัวเชด ปราสาท และอำเภอพนมดงรัก) ศรีสะเกษ (อำเภอกันทรลักษ์ และอำเภอขุนหาญ) และจังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเขมราฐ โขงเจียม และอำเภอสิรินธร)
- ภาคกลาง จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครนายก (อำเภอปากพลี) ปราจีนบุรี (อำเภอนาดี) สระแก้ว (อำเภอเมืองสระแก้ว และอำเภอตาพระยา) ฉะเชิงเทรา (อำเภอท่าตะเก็ยบ พนมสารคาม และอำเภอสนามชัยเขต) ชลบุรี (อำเภอบางละมุง และอำเภอศรีราชา) ระยอง (อำเภอเมืองระยอง ปลวกแดง นิคมพัฒนา และอำเภอแกลง) จันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี แก่งหางแมว ขลุง เขาคิชฌกูฏ ท่าใหม่ โป่งน้ำร้อน มะขาม และอำเภอแหลมสิงห์) และจังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด เกาะกูด เกาะช้าง เขาสมิง คลองใหญ่ บ่อไร่ และอำเภอแหลมงอบ)
- ภาคใต้ จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร (อำเภอพะโต๊ะ) นราธิวาส (อำเภอสุคิริน) ระนอง (อำเภอเมืองระนอง กะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ) พังงา (อำเภอคุระบุรี และอำเภอตะกั่วป่า) กระบี่ (อำเภอเกาะลันตา) และจังหวัดตรัง (อำเภอสิเกา)
* พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ของความจุเก็บกัก รวม 47 จังหวัด
บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี ระนอง ภูเก็ต และจังหวัดกระบี่
* พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นฉับพลัน ระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลัก และลำน้ำสาขาของแม่น้ำสาย
บริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย แม่น้ำยม บริเวณอำเภอเมืองแพร่ สอง และอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก แม่น้ำห้วยหลวง บริเวณอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ลำน้ำยัง บริเวณอำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด แม่น้ำชี บริเวณอำเภอมหาชนะชัย อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ แม่น้ำมูล บริเวณอำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี แม่น้ำท่าจีน บริเวณอำเภอเมืองสุพรรณบุรี บางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี อำเภอบางเลน และอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม แม่น้ำป่าสัก บริเวณอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ หล่มสัก และอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอเสาไห้ และอำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
* พื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกสะสม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มส่งผลกระทบพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี
* พื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบจากกรณีเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ ทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น และล้นตลิ่ง ได้แก่ บริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อย อำเภอเสนา และอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอเมืองสิงห์บุรี อินทร์บุรี และอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอไชโย และอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท และเฝ้าระวังกิจกรรมการใช้น้ำและการสัญจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 55 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมพร้อมรับมือโดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยง
รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุ และช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัยขึ้นในพื้นที่