
นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เผยจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมผิวจราจรที่เกิดปัญหาถนนสามเสนทรุดตัว บริเวณหน้าทางเข้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามเดิมภายใน 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน
ทั้งนี้จากการหารือร่วมกันระหว่าง รฟม. ผู้รับจ้าง และผู้ออกแบบ จะแบ่งการแก้ไขออกเป็น 2 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 จะเร่งคืนพื้นที่ผิวจราจรถนนสามเสน ซึ่งจากการสำรวจดินมีเสถียรภาพพอสมควร การสไลด์มีเล็กน้อย จะเริ่มอุดรูรั่วด้วยการใช้กระสอบทรายเกือบ 5 หมื่นลูก แล้วถมด้วยซีเมนต์ผสม และกลบกลับด้วยทราย เพื่อให้พื้นผิวกลับสู่ระดับปกติ เพื่อเปิดการสัญจรโดยเร็วที่สุดภายใน 2 สัปดาห์
ระยะที่ 2 แก้ไขซ่อมแซมอุโมงค์กับตัวสถานี รวมทั้งซ่อมแซมอาคารข้างเคียง และ สน.สามเสน ให้กลับมามั่นคงแข็งแรง
ผู้ว่าการ รฟม. ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องต้นสันนิษฐานน่าจะเกิดจากสภาพของดินร่วมกับน้ำที่อยู่ใต้ดิน ทำให้สภาพของดินเปลี่ยนเสถียรภาพเป็นลักษณะพิเศษ ส่งผลให้ท่อประปาที่อยู่ลึก 3 เมตรชำรุด ทั้งน้ำประปาและน้ำเสียรวมกับดินทำให้เสถียรภาพแล้วไหลเข้าไปที่ช่องว่างระหว่างสถานีกับอุโมงค์ แรงดันมหาศาลของดินและน้ำทำให้รูขยายวงจนเกิดการทรุดตัวขนาด 30x30 เมตร ลึก 20 เมตร มีดินไหลเข้าไปในโครงสร้างสถานี 50 เมตร และอุโมงค์อีก 10 เมตร
"รฟม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราขอเวลาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบรายละเอียดเพื่อหาต้นเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจไม่ให้เกิดเหตุการณ์อีก การก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินดำเนินการมาเป็น 10 ปี มีเทคนิคมาตรฐานในการดำเนินงานและมืออาชีพ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นครั้งแรกเป็นสถานการณ์พิเศษ" นายกาจผจญ กล่าวโดย รฟม. และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา ยืนยันพร้อมรับผิดชอบ ดูแลแก้ไขปัญหาให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และจะเยียวยาประชาชน ตลอดจนทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อย่างดีที่สุด โดย รฟม. ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและเยียวยาผู้รับผลกระทบ โดยจะเร่งประชาสัมพันธ์ และลงพื้นที่ดูแลทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบทันที
ผู้ว่าฯ รฟม.กล่าวว่า รฟม.และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา จะพยายามเต็มที่ในการดูแลและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อคืนสภาพพื้นที่ถนนให้กลับคืนสู่สภาพปกติและใช้งานสัญจรได้โดยเร็ว พร้อมรับผิดชอบและเยียวยาดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างดีที่สุด โดยผู้รับจ้าง มีการประกันภัยงานก่อสร้างชื่อ (Contractor All Risks: CAR) สำหรับประกันความเสี่ยง ซึ่งประเมินว่ายังครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยจากนี้จะต้องมีการประเมินค่าเสียหายก่อน ส่วนรฟม. ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและเยียวยาผู้รับผลกระทบแล้ว
นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ได้กำชับให้ รฟม. ตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม. เพื่อยืนยันความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้าง และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน โดย รฟม. ได้ดำเนินการตรวจสอบในจุดต่างๆ แล้ว ยังคงเป็นไปตามมาตรฐานการก่อสร้าง
ทั้งนี้ รฟม. ขอให้ความมั่นใจแก่ประชาชนว่า ทุกๆ การดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ของ รฟม. ได้ดำเนินการภายใต้มาตรฐานการก่อสร้าง มีการออกแบบ ควบคุมการก่อสร้าง และความปลอดภัยตามหลักวิศวกรรมทุกขั้นตอน โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รฟม. และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจะร่วมกันตรวจเพื่อหาต้นตอต้นเหตุที่แท้จริง เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก