
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงการประชุมติดตามความคืบหน้าการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานประชุม
ที่ประชุมได้มีการสอบถามความคืบหน้า และรายละเอียดในการดำเนินงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ จากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และสมาคมต่าง ๆ ซึ่งได้แบ่งงานในการรับผิดชอบ อาทิ การเดินทางของนักกีฬาที่จะเข้าร่วมสนามแข่งขัน และรายละเอียดต่าง ๆ ส่วนเรื่องที่พักของนักกีฬา ยืนยันว่าในส่วนนี้มีความพร้อมแล้ว

นายอรรถกร กล่าวด้วยว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้กำชับในที่ประชุม โดยขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันจัดการแข่งขันในฐานะเจ้าภาพให้ดีที่สุด เนื่องจากจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการและเน้นย้ำถึงความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงจะต้องทำให้ไม่มีข้อผิดพลาด เพราะอีกนานมากกว่าที่ไทยจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้งหนึ่ง โดยครั้งสุดท้าย ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดซีเกมส์ คือเมื่อ 18 ปีที่แล้ว
ส่วนเรื่องการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬานั้น ร.อ.ธรรมนัส กำชับว่า จะต้องมั่นใจว่าคนที่จะมารับหน้าที่ในการถ่ายทอดสด หรือแม้แต่กระทั่งการจัดพิธีเปิด หรือพิธีปิด จะต้องทำให้สมศักดิ์ศรีของประเทศไทย
"ขณะนี้ เหลือเวลาอีกเพียง 75 วันเท่านั้น มีอีกหลายประเด็นที่เราก็ต้องคำนึงถึง เช่น เรื่องของงบประมาณที่จะต้องเกิดขึ้นหลังจากนี้ จะทำอย่างไรที่จะใช้มาให้อุดรอยรั่วในจุดอ่อนทุกจุด ซึ่งผมได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่ร่วมประชุมในวันนี้ เปิดใจคุยกันตรง ๆ เพื่อที่จะได้หาทางแก้ไขร่วมกัน ผมเชื่อว่าเมื่อเราได้พูดคุยกันแล้ว การทำงานจะมีความชัดเจน และจะเดินหน้าไปสู่ความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาทุกประเภทในระดับมาตรฐานสากลของประเทศไทย" นายอรรถกร กล่าวส่วนกรณีสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ถูกสหพันธ์เปตองนานาชาติสั่งห้ามส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งกีฬาซีเกมส์ นายอรรถกร กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และจะหาทางแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อให้นักกีฬาเปตองสามารถแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 นี้ให้ได้