นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ทนายความ นำกลุ่มผู้เสียหายจากบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เข้ายื่นฟ้องคดีแพ่ง เป็นคดีผู้บริโภค และขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม (class action) เรียกค่าเสียหายกว่า 6,000 ล้านบาท
ขณะที่ในส่วนคดีอาญา พนักงานอัยการได้ฟ้องไปแล้ว เป็นการฟ้องฐานความผิดที่รุนแรง คือฐานความผิดเรื่องแชร์ลูกโซ่ ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งพนักงานอัยการจะต้องนำสืบแก่ศาลให้แน่ชัดว่า บอสทั้งหลายและดิไอคอน มีเจตนาฉ้อโกงประชาชนเป็นลูกโซ่
นายวีรพัฒน์ กล่าวว่า เนื่องจากการฟ้องคดีแพ่งแบบกลุ่ม ขอแค่จงใจประมาทเลินเล่อที่จะเอาเปรียบผู้บริโภค และทำให้ผู้บริโภคเสียหาย ก็มีความผิดได้ และที่สำคัญคือการที่ฟ้องคดีผู้บริโภค ศาลมีดุลยพินิจที่จะกำหนดค่าเสียหายเพื่อการลงโทษ โดยค่าเสียหายเพื่อการลงโทษ ศาลจะพิจารณาว่า พฤติกรรมการหลอกลวงประชาชนเป็นหมื่นเป็นแสนราย ร้ายแรง และจงใจขนาดไหน ซึ่งถ้าศาลเห็นว่าจงใจเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างร้ายแรง ทำให้สังคมเดือดร้อน เป็นคดีที่เสื่อมเสีย และขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชนในวงกว้าง ศาลก็มีดุลยพินิจจะกำหนดค่าเสียหายให้ผู้เสียหายเพิ่มอีก ซึ่งทำในคดีอาญาไม่ได้ แต่ในคดีแพ่งทำได้