
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ห่วงใยและได้ติดตามสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ของประเทศไทยอย่างใกล้ชิด โดยให้จังหวัดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย ทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ และเร่งสำรวจ ช่วยเหลือ และดูแลประชาชน
"นายกฯ ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด สั่งการหากต้องการความช่วยเหลือ สามารถรายงานตรงกับ อธิบดี ปภ.ได้เลย ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนได้ทางช่องทางของ ปภ. และหากสถานการณ์มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อประชาชน จะส่งแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast และสามารถแจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือได้ ทางไลน์ "ปภ. รับแจ้งเหตุ" และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง" นายสิริพงศ์ กล่าว
สำหรับอิทธิพลของพายุ "บัวลอย" ส่งผลให้ยังคงมีสถานการณ์ฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ยังคาดการณ์ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ อาจจะส่งผลให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ช่วงประมาณวันที่ 5 ต.ค.นี้
"ขอให้ทุกจังหวัด ได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ทั้งการเตรียมทรัพยากรในการป้องกัน เตรียมพื้นที่อพยพประชาชน พร้อมจะต้องเร่งสำรวจเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยต้องใช้ทุกกลไกร่วมกันรับมือ ช่วยดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ ต้องประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรับรู้รับทราบผ่านทุกช่องทาง ให้สามารถเตรียมรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีด้วย" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า อิทธิพลพายุ "บัวลอย" ได้ส่งผลกระทบกับหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.68 จนถึงปัจจุบัน เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ในพื้นที่ 14 จังหวัด 31 อำเภอ 85 ตำบล 352 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบรวม 5,484 ครัวเรือน 18,647 คน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
โดยข้อมูลล่าสุด (ณ เวลา 06.00 น.) มี 10 จังหวัดที่ยังคงได้รับผลกระทบ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน, พิษณุโลก, อุตรดิตถ์, เลย, หนองบัวลำภู, ขอนแก่น, มหาสารคาม, สุรินทร์, นครราชสีมา และปราจีนบุรี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 17 อำเภอ 54 ตำบล 207 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,207 ครัวเรือน 15,563 คน