นายสันติ ปิยะทัต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบ 5 นโยบายหลัก ภายใต้แนวทาง Quick Big Win ให้ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ดำเนินการ เพื่อเสริมความเข้มแข็งด้านสิทธิผู้บริโภค และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ปลอดภัย
"แนวทาง Quick Big Win ประกอบด้วย 5 นโยบายสำคัญ ถือเป็นกลไกการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคที่เข้มแข็ง โดยเน้นความเป็นธรรม ความรวดเร็ว และการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างหลักประกันด้านคุณภาพชีวิตที่ดี และปลอดภัย โดยมอบหมายให้ สคบ.เป็นกลไกในการปกป้องประชาชนอย่างทันท่วงที ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกการบริโภค ทั้งในรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนากลไกการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความเป็นธรรม และยั่งยืน" นายสันติ กล่าวโดย 5 นโยบายดังกล่าว ประกอบด้วย
1. โครงการ "คนละครึ่งพลัส" ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.- 31 ธ.ค.นี้ โดย สคบ. จะดูแลสิทธิของประชาชนในระบบการใช้จ่าย ให้ความรู้แก่ประชาชนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการหลอกลวง พร้อมส่งเสริมความเข้าใจด้านกฎหมายแก่ผู้ประกอบการ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการควบคุมร้านค้าและผู้ให้บริการ ไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภค ทั้งด้านราคา การบริการ และการโฆษณา พร้อมดำเนินการตรวจสอบและลงโทษผู้ละเมิดสิทธิอย่างเด็ดขาด รวมถึงเปิดช่องทางรับเรื่องร้องเรียน เพื่อส่งต่อไปยังกระทรวงพาณิชย์ให้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเหมาะสม
2. โครงการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อสุขภาพและอนาคตของชาติ เป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการปกป้องประชาชน โดยเฉพาะเยาวชน จากภัยเงียบจากบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งอาจกลายเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุข และสังคมในอนาคต รวมถึงการควบคุมข้อมูล และโฆษณาที่บิดเบือน เช่น การกล่าวอ้างว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัย โดยใช้อำนาจควบคุมสินค้าและช่องทางจำหน่ายอย่างเข้มงวด เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับนโยบายของรัฐอย่างเป็นรูปธรรม
3. มาตรการลดค่าครองชีพ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการอยู่อาศัย มุ่งคุ้มครองสิทธิของผู้เช่า โดยไม่ให้มีการเรียกเก็บค่าไฟฟ้า และค่าประปาเกินอัตราที่กำหนด เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะกลุ่มผู้เช่าที่พักอาศัย ให้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณูปโภคอย่างเป็นธรรม
โดย สคบ.จะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การไฟฟ้า และการประปา เพื่อกำหนดมาตรฐานควบคุมค่าน้ำและค่าไฟ พร้อมดำเนินการตรวจสอบ และลงโทษเจ้าของอาคารที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัด
4. นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ในการกำกับดูแลธุรกิจการเช่าต่าง ๆ เช่น การเช่ารถ ให้มีการคิดค่าบริการอย่างเป็นธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
5. นโยบายอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการรายย่อย (SME) โดยจัดให้มีระบบ ONE-STOP SERVICE สำหรับการจดแจ้งการค้าและจดทะเบียนบริษัทในจุดเดียว หรือผ่านช่องทางออนไลน์ โดย สคบ.จะประสานงานกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อศึกษารูปแบบการดำเนินงานที่ชัดเจน รองรับการค้าขายแบบ e-Commerce อย่างมีประสิทธิภาพ