
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN SUMMIT) ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า ทางฝ่ายไทยได้แจ้งเงื่อนไขไปแล้ว 4 ข้อ ที่จะทำให้มีการพูดคุยต่อไปได้ และขอให้กัมพูชาปฏิบัติ คือ 1.เรื่องการถอนอาวุธหนัก เพื่อทำให้ฝ่ายไทยไม่รู้สึกว่าเป็นอันตรายต่อประชาชน 2.เรื่องการถอนทุ่นระเบิด 3.เรื่องแก้ปัญหาสแกมเมอร์ และ 4.เรื่องการจัดการพื้นที่ที่คนกัมพูชาเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ซึ่งทั้ง 4 เรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ส่วนเดตไลน์วันที่ 10 ต.ค.นี้ ที่จะผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่มีคำว่า "เดตไลน์" แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวก่อน หากไม่ปฏิบัติ ก็จะมีมาตรการที่จะดำเนินการต่อไป
สำหรับการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีการหารือกับฝ่ายกองทัพ และกองทัพก็รับไปในเรื่องของการใช้กฎหมาย พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กฎอัยการศึก ในการบริหารสถานการณ์พื้นที่นั้นร่วมกับทางฝ่ายปกครอง ตำรวจ และป่าไม้
ส่วนกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นตัวกลางพูดคุยระหว่างไทย-กัมพูชา นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ทำหนังสือมาถึงตน โดยแสดงความจำนงที่ต้องการเห็นไทย-กัมพูชา เจรจาหาข้อยุติข้อพิพาทระหว่างกันได้ ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายไทยกำลังจะแจ้งกลับไปทางประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าหากกัมพูชาปฏิบัติตามเงื่อนไข 4 ข้อหลักนี้ ไทยก็พร้อมจะปฏิบัติตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น
"ทางผม จะมีข้อความตอบกลับไปยังท่าน (โดนัลด์ ทรัมป์) ว่า ถ้าฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม 4 ข้อหลักนี้ ฝ่ายไทยเราก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น เราต้องยืนยันใน 4 ข้อนี้ เพราะ 4 ข้อนี้ เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ และที่สำคัญเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนของเรา" นายกรัฐมนตรี กล่าวส่วนจะทันช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามกัมพูชาว่าพร้อมปฏิบัติหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่โทรศัพท์ให้มีการปฏิบัติเรื่องนี้ หรือมีคำสั่ง มีหนังสือยืนยันมา ก็ไม่ยาก
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการยกเลิก MOU 43-44 ว่า กรรมาธิการกำลังอยู่ระหว่างศึกษา ส่วนจะใช้ระยะเวลานานเท่าไรนั้น เป็นเรื่องของสภาฯ ที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งเราต้องรับฟังทั้ง 2 สภา เนื่องจากมีการตั้งกรรมาธิการทั้ง 2 สภา
"ทุกอย่างต้องนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ทีละประเด็น แต่ 4 เดือนนี้ อย่าเพิ่งคาดหวังอะไรที่เป็นเรื่องระยะยาว ต้องทำให้สถานการณ์ปัจจุบันคลี่คลายไปให้ได้มากที่สุดก่อน" นายกรัฐมนตรี กล่าว