ภาพจำที่ฝังหัวคนไทยมานานกว่า 30 ปี คือผู้ติดเชื้อ HIV ต้องถูกส่งตัวไปรักษาที่วัดพระบาทน้ำพุ เรียกได้ว่าเปรียบเสมือนที่พึ่งสุดท้าย เพราะในยุคนั้นยังไม่มีการรักษาที่ได้ผล แถมยังถูกซ้ำเติมอย่างรุนแรงด้วยการตีตราจากคนในสังคม จึงทำให้เกิดภาพฝังใจที่ว่า "ติดเชื้อ HIV = ต้องไปวัดเท่านั้น" เหมือนไม่มีทางเลือกอื่น
และจากข่าวดังเกี่ยวกับดราม่าวัดพระบาทน้ำพุในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าถ้าเกิดถึงจุดสิ้นสุดของวัดแห่งนี้จริง ๆ แล้วจากนี้ผู้ติดเชื้อ HIV จะต้องไปไหน ?
คำตอบคือ ไม่ต้องไปไหนเลย เพราะปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ ผู้ติดเชื้อ HIV สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ มีอายุยืนยาว ไม่เจ็บป่วยง่าย หากรับยาต้านไวรัสสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นจะต้องรอให้เกิดเป็นโรคร้ายจนหมดทางสู้อีกต่อไป
"ภาพผู้ป่วยโทรม ๆ มีแผลตามตัวเยอะ ๆ มันหายไปแล้ว ถ้ารู้ได้เร็วก็มีโอกาสที่จะใช้ชีวิตได้ปกติทั่วไปเลย จากฐานข้อมูลเรามีผู้ป่วยที่ติดเชื้อมามากกว่า 30 ปีแล้ว ก็ยังแข็งแรงดีอยู่" นพ.พงศ์ธร ชาติพิทักษ์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวกับ "อินโฟเควสท์"
และใน "Talk Time" EP.นี้ คุณหมอยังเล่าถึงสถานการณ์การแพร่ระบาด HIV ล่าสุดในไทย รวมถึงอัปเดตวิธีการปฏิบัติตัวเบื้องต้นหากพบเชื้อ HIV ซึ่งปัจจุบัน "ฟรี" ทุกสิทธิการรักษา
ที่สำคัญยังแชร์มุมมองความเชื่อเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อ HIV ที่คุณเองก็อาจจะกำลังเข้าใจผิดอยู่ !? ไม่แน่ว่าข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้คนในสังคมเปลี่ยนมุมมอง และเข้าใจผู้ติดเชื้อ HIV มากขึ้นก็เป็นได้
https://youtu.be/lRctTtvIKoo