
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จากอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียหายจากการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีคนไทยบางส่วนไปมีส่วนร่วมในการหลอกลวงพี่น้องประชาชน คนไทยด้วยกัน โดยการรับจ้างเปิดบัญชีม้า และข้ามแดนไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสแกนหน้าในการทำธุรกรรมโอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนที่คิดจะแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) และเดินทางไปอยู่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อทำการสแกนหน้ายืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิด
การกระทำดังกล่าว นอกจากจะเป็นความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2568 มาตรา 9 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาทแล้ว ยังจะเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน "มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 มาตรา 25 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 80,000 บาท ถึง 300,000 บาท อีกด้วย
รองโฆษก ตร. ได้ยกตัวอย่างกรณีเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.68 ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีคำพิพากษาตามคดีหมายเลขดำที่ อ319/2568 และคดีหมายเลขแดงที่ อ1230/2568 พิพากษาจำคุกผู้กระทำความผิด (บัญชีม้า) ถึง 41 ปี 258 เดือน กรณีเป็นเจ้าของบัญชีม้าและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และพิพากษาจำคุกผู้เป็นธุระจัดหา (ผู้ดูแลคอกม้า) ถึง 119 ปี 234 เดือน
"หากพี่น้องประชาชนพบเห็น หรือมีเบาะแสของผู้ที่ชักชวน หรือเป็นธุระจัดหาบุคคลให้ไปเปิดบัญชีม้า สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191, 1599 หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง" พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ระบุ