นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยถึงสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางที่กำลังเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอยู่ขณะนี้ ซึ่งเกิดขึ้นจากฝนที่ตกอย่างหนักเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว จนถึงต้นเดือนพ.ย. ซึ่งขณะนี้น้ำเดินทางมาถึงภาคกลางแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา กรมชลประทานได้ขออนุญาตเพื่อขยายการระบายน้ำจาก 2,500 ลูกบาศก์เมตร เป็น 2,700 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา จึงอยากแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำตั้งแต่จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี ว่าอาจจะได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่ระบายออกมาในช่วง 2-3 วันหลังจากนี้
นายภราดร กล่าวว่า เมื่อ 2 วันที่แล้ว ตนได้ประชุมและให้แนวทางไปว่าหากมีปริมาณน้ำมากกว่านี้ ที่ต้องบริหารจัดการนอกจากการระบายน้ำออกท้ายเขื่อนเจ้าพระยาแล้ว จะต้องหาพื้นที่รองน้ำ หรือพื้นที่แก้มลิงตามเขตพื้นที่ชลประทานที่ยังสามารถเอาน้ำไปเก็บได้ เพื่อหน่วงไว้ไม่ให้มีน้ำในลำน้ำมากเกินไป เพราะเรามีประสบการณ์ 2 ครั้ง ตั้งแต่ปี 54 และปี 65 ซึ่งเป็นบทเรียนที่คิดว่าฝ่ายปฏิบัติต้องไปทบทวนให้ดี ว่า ต้องพยายามเอาน้ำออกฝั่งด้านซ้าย และขวาของเขื่อน หรือเอาไปไว้ในพื้นที่เกษตรเกษตรกรรม แต่เอาน้ำออกที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และคลองสาขาเป็นหลักเท่านั้น เมื่อทำแบบนั้นแล้วจะทำให้แม่น้ำไหลทั้ง 2 สายยกตัวขึ้นเร็วมาก จึงสุ่มเสี่ยงต่อการพังทลายของเขื่อนป้องกันน้ำท่วม ทำให้การควบคุมทิศทางน้ำยาก
พร้อมระบุว่า การตัดสินใจของหน่วยงานผู้ปฏิบัติ 1-2 วันนี้ อาจจะทำให้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์น้ำท่วมได้ จึงฝากว่าให้เร่งดำเนินการก่อนที่จะสายเกินไป และมีโอกาสสูงที่จะทำให้สถานการณ์ซ้ำรอย 65