รับมือน้ำ!! ผู้ว่าฯ กทม. เร่งเสริมกระสอบทรายย่านสะพานพุทธ-ท่าเตียน มั่นใจยังเอาอยู่

ข่าวทั่วไป Monday November 10, 2025 16:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รับมือน้ำ!! ผู้ว่าฯ กทม. เร่งเสริมกระสอบทรายย่านสะพานพุทธ-ท่าเตียน มั่นใจยังเอาอยู่

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่บริเวณสะพานพุทธฯ และย่านท่าเตียน เพื่อติดตามสถานการณ์ระดับน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา และตรวจสอบความแข็งแรงของแนวป้องกันน้ำท่วม รวมถึงตรวจสอบจุดเสี่ยงที่อาจเกิดการรั่วซึม หรือน้ำทะลักเข้าสู่พื้นที่ชุมชน และย่านสำคัญในเขตพระนคร ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า แม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วยน้ำ 2 ส่วน คือ น้ำเหนือ กับน้ำหนุน ตอนนี้น้ำเหนือปล่อยลงมามากขึ้น ราว 2,800 ลูกบาศก์เมตร/วินาที แต่น้ำหนุนน้อยลง ภาพรวมสถานการณ์วันนี้จึงถือว่าดีกว่าเมื่อวาน

รับมือน้ำ!! ผู้ว่าฯ กทม. เร่งเสริมกระสอบทรายย่านสะพานพุทธ-ท่าเตียน มั่นใจยังเอาอยู่"ช่วงเที่ยงของวันนี้ น้ำขึ้นสูงสุดที่ประมาณ 2.1 เมตร ขณะที่เขื่อนของกทม. สูง 2.8 เมตร ยังเหลือระยะอีกประมาณ 70 เซนติเมตร ถือว่ายังปลอดภัย" ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

พร้อมระบุว่า กทม.ได้ใช้วิธี "สูบสู้" คือ สูบน้ำจากท่อที่เก็บน้ำที่รั่วหรือซึมออกมา กลับไปยังแม่น้ำ เพื่อไม่ให้ไหลลงถนน และย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังไม่น่าเป็นห่วง เขื่อนกั้นยังสูง แม้จะมีบางจุดที่เป็นจุดฟันหลอ มีน้ำซึมออกมาบ้าง แต่ไม่มาก ดังนั้นสถานการณ์โดยรวมยังสามารถควบคุมได้ดี มีทีมงานอยู่หน้างานตลอด หากพื้นที่ใดมีปัญหา ก็สามารถแจ้งเข้ามาได้

รับมือน้ำ!! ผู้ว่าฯ กทม. เร่งเสริมกระสอบทรายย่านสะพานพุทธ-ท่าเตียน มั่นใจยังเอาอยู่

อย่างไรก็ดี ผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งการให้เร่งเสริมแนวกระสอบทรายเพิ่มเติม บริเวณรอบร้านอาหารโรงรส ย่านท่าเตียน ซึ่งเป็นแนวฟันหลอ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการทรุดตัวของผนังอาคาร และลดความเสี่ยงที่น้ำจะไหลบ่าเข้าพื้นที่สำคัญโดยรอบ

ขณะที่สำนักการระบายน้ำ ได้เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เครื่องสูบน้ำ และอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเฝ้าระวังระดับน้ำหนุนสูงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ โดยยืนยันว่า กทม.มีมาตรการรองรับ และระบบป้องกันน้ำท่วมพร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคุ้มครองพื้นที่เศรษฐกิจ และชุมชนริมแม่น้ำให้ปลอดภัยสูงสุด

นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวว่า ในพื้นที่บางส่วนอาจมีกรรมสิทธิ์ที่ดิน มิได้เป็นที่สาธารณะ หากจะกระทำการใด ๆ ต้องได้รับความยินยอม จึงต้องมีการหารือ และแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตพระนคร และ กทม. ได้พยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด โดยในจุดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษนั้น จะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ สำนักงานเขตพระนคร ได้มีแผนในการเร่งเสริมกระสอบทราย เสริมความมั่นคงแข็งแรง ป้องกันน้ำล้นละทัก และจะได้มีการสร้างสะพานไม้ชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้สัญจร รวมทั้งเตรียมกระสอบทรายสำรองไว้ในจุดใกล้เคียง เพื่อใช้ในกรณีเร่งด่วน พร้อมมอบหมายให้ฝ่ายโยธาสำรวจท่าเรือ และจุดเสี่ยงทุกแห่ง เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ รวมถึงเสริมกระสอบทรายในจุดที่จำเป็นเร่งด่วนโดยเฉพาะท่าเรือ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรให้กับประชาชน และบล็อกน้ำไม่ให้ล้นออกมาท่วมทางสัญจร หรือบ้านเรือนประชาชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ