กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) รายงานผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (AFNC) ระหว่างวันที่ 7-13 พฤศจิกายน 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 998,165 ข้อความข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 1,186 ข้อความ
สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 1,157 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 26 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 3 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 249 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 97 เรื่อง
น.ส.สุชาดา ซาง แทนทรัพย์ โฆษกดีอี กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้น ๆ ในสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่เป็นข่าวเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะ "โครงการเงินดิจิทัล" ข่าวการให้บริการของหน่วยงานรัฐ ข่าวภัยพิบัติ และข่าวที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งทั้งหมดมีผลกระทบต่อสังคมส่วนใหญ่ อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ตื่นตระหนก และวิตกกังวลได้ รวมทั้งอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สิน หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล
อันดับที่ 1 : เรื่อง เปิดลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเงินสด ถึงวันที่ 30 พ.ย. 68
อันดับที่ 2 : เรื่อง เริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต วันที่ 10 - 14 พ.ย. 68
อันดับที่ 3 : เรื่อง เตือน 11-13 พ.ย. 68 พายุ ฟงวอง เข้าไทย เฝ้าระวังภาคเหนือ-อีสาน-กลาง
อันดับที่ 4 : เรื่อง โครงการคนละครึ่งพลัส ดึงงบประมาณมาจาก สปสช. และ กยศ.
อันดับที่ 5 : เรื่อง นมธัญพืช Glusure ลดน้ำตาลในเลือด จัดการเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อันดับที่ 6 : เรื่อง รัฐบาลประกาศเริ่มโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 แล้ว
อันดับที่ 7 : เรื่อง ชาวยิวในประเทศไทยเป็นทหารรับจ้างฆ่าเด็กและสตรี
อันดับที่ 8 : เรื่อง เตรียมประกาศลดบำนาญในปีงบประมาณ 2571
อันดับที่ 9 : เรื่อง ไทยผลักดัน "หมอลำคอนสวรรค์ ลำตั่งหวาย ลำภูไท" ขึ้นทะเบียนยูเนสโก ทั้งที่เป็นศิลปะลาวโดยกำเนิด
อันดับที่ 10 : เรื่อง พบเมฆเตือนภัยรูปเครื่องบิน ให้เฝ้าระวังเครื่องบินตก 4 - 30 พ.ย. 68
สำหรับเรื่อง "เปิดลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเงินสด ถึงวันที่ 30 พ.ย. 68" กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับกลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง ตรวจสอบพบว่า ไม่เป็นความจริง โดยขอชี้แจงว่าในขณะนี้ยังไม่มีโครงการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท แต่อย่างใด
ดังนั้น การให้ข้อมูลดังกล่าว จึงเป็นการให้ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชน โดยขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ และมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อการรับข้อมูลที่ถูกต้องและขออย่าส่งต่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เพราะอาจสร้างความสับสนและทำให้ผู้อื่นได้รับข้อมูลที่ผิดได้
ส่วนข่าวปลอมอันดับ 2 เรื่อง "เริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต วันที่ 10 - 14 พ.ย. 68" ซึ่งได้รับการตรวจสอบจากกลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง แล้วพบว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันยังไม่มีโครงการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนเงินดิจิทัลวอลเล็ต ดังนั้นข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นข้อมูลเท็จ