รัฐบาลประกาศท่าทีชัดเจนต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังปรากฎหลักฐานว่ากัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ บริเวณห้วยตามาเรีย ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ อันถือเป็นการละเมิดข้อตกลงปฏิญญาร่วม (Joint Declaration) และส่งผลทำให้ทหารไทยบาดเจ็บเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยไทยจำเป็นต้องระงับการปฎิบัติที่ได้ตกลงไว้ในปฏิญญาร่วม ได้แก่
- ระงับปฏิบัติตามแผน (Action Plan) ในการถอนอาวุธหนัก
- ยังคงดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด (ในดินแดนไทย) ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 13 พื้นที่ ตามที่ได้มีการเสนอในที่ประชุม GBC วาระพิเศษ ครั้งที่ 2 เมื่อ 23 ต.ค.68 และมี 5 พื้นที่ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการเป็นโครงการนำร่อง (Pilot Project)
- การบริหารจัดการพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ยังคงมีการดำเนินการต่อไป
- รัฐบาลและกองทัพ ยืนยันที่จะใช้แนวทางสันติวิธีในการปฏิบัติการทั้งหมดนี้ แต่ขอสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้ตามความเหมาะสม หากถูกยั่วยุ
- ประเด็นเรื่องการปล่อยเชลยศึก จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะเริ่มมีการเจรจาพูดคุยกัน โดยจะต้องรอจนกว่ากองทัพไทย รัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศ เห็นว่าความเป็นปรปักษ์ของกัมพูชาหมดสิ้นไปก่อน
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า ประเทศไทยดำเนินการทูตเชิงรุกในทุกกรอบ และในทุกโอกาส โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้วางกรอบแนวทางและแผนที่จะดำเนินการในการประชุมระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีได้มุ่งหมายในการสื่อสารกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อขอให้แยกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ออกจากประเด็นผลประโยชน์ทางการพาณิชย์ระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกา ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย (ในฐานะประธานอาเซียน) ได้ยืนยันแล้วว่า ทางสหรัฐอเมริกาจะแยกประเด็นนี้ออกจากกัน
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะยังเดินหน้าชี้แจงต่อประชาคมโลก และสื่อมวลชนในเวทีต่าง ๆ โดยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ มีกำหนดเดินทางเข้าร่วมประชุมเวที Indo-Pacific Ministerial Forum ครั้งที่ 4 กับสหภาพยุโรป และพบผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำเทศไทยตลอดช่วงสัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้า รวมถึงไทยจะเดินหน้าจัดการสแกมเมอร์ โดยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต หรือออนไลน์สแกม ระดับรัฐมนตรี ในเดือน ธ.ค.นี้
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า หากกลไกในระดับทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่สามารถดำเนินการได้ ก็จะใช้การดำเนินการในระดับพหุภาคี โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุม 6 ชาติ ได้แก่ จีน เมียนมา ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม เพื่อมุ่งเน้นการปราบปรามและจัดการอาชญากรรมฉ้อโกงทางโทรคมนาคม และออนไลน์
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าจะดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเข้มข้น ทั้งมาตรการในประเทศ และต่างประเทศ และจะร่วมกับรัฐบาลและเหล่าทัพในการปกป้องอธิปไตยของประเทศในทุกมิติ