รัฐบาล ไฟเขียวเยียวยาเหยื่อน้ำท่วมใต้รายละ 2 ล้าน จัดระดับความรุนแรงเทียบชั้นสึนามิ

ข่าวทั่วไป Friday November 28, 2025 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดแนวทางในการให้การเยียวยาแก่ประชาชน หลังสถานการณ์คลี่คลายลง โดยรัฐบาลได้มีการกำหนดอัตราเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้ ในวงเงินรายละ 2 ล้านบาท ในพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

โดยเหตุอุทกภัยครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เปรียบได้กับสถานการณ์สึนามิ รัฐบาลจึงเห็นชอบให้มีการเยียวยาเป็นกรณีพิเศษ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการติดต่อประสานงาน ผ่านช่องทางสายด่วน 1782 และ 1111 ตลอดจนเป็นศูนย์รับบริจาคเงิน สิ่งของ ผ่านกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีองค์กร ภาคเอกชน ประชาชน จากหลายภาคส่วนประสงค์ที่จะร่วมบริจาคเงิน สิ่งของ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

โดยได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดรับบริจาคเงิน และสิ่งของอย่างเป็นทางการ เพื่อให้เงินทุกบาททุกสตางค์ถูกนำไปใช้ ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ผ่านกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0 โดยเงินบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

*ตรวจสอบพื้นที่เปิดทางระบายน้ำ-เริ่ม Big Cleaning

ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย สั่งการให้ลงสำรวจพื้นที่ชั้นในของอำเภอหาดใหญ่ หลังน้ำลดลงเกือบ 100% แล้ว ซึ่งวันนี้จะนำถุงยังชีพเข้าไปมอบให้กับชาวบ้านในพื้นที่ชั้นในและซอกซอยที่เข้าถึงยาก และในส่วนกระทรวงคมนาคม ได้นำถุงยังชีพมาสนับสนุนเพิ่มเติม

สำหรับการช่วยเหลือเฉพาะหน้านั้น ทุกหน่วยงานและกระทรวงต่าง ๆ ได้ระดมตั้งวอร์รูมและศูนย์ประกอบอาหาร โดยสามารถผลิตข้าวกล่อง เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ รวมทั้งจิตอาสาจากทั่วประเทศ

ส่วนแผนฟื้นฟูและเยียวยาจากรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบฉุกเฉิน 100 ล้านบาทต่อจังหวัด ใน 9 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการอนุมัติ นอกจากนี้ จะมีมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัยและจะเริ่ม Big Cleaning ล้างเมือง และรีบเก็บขยะในวันนี้ รวมถึงซ่อมแซมระบบไฟฟ้า และสายไฟที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ส่วนปัญหาที่เกิดจากถนนหลัก 2 เส้นในหาดใหญ่ คือ ถนนบายพาสสนามบิน-ปัตตานี เปรียบเสมือนสันเขื่อนที่กั้นน้ำจาก อ.สะเดา แต่มีการเจาะช่องเพิ่มหลังปี 2553 ทำให้น้ำบางส่วนเข้าพื้นที่ชั้นในได้มากขึ้น และถนนลพบุรีราเมศวร์ ซึ่งสร้างภายหลัง กลายเป็นแนวกั้นน้ำด้านออก ทำให้น้ำไหลออกสู่ทะเลสาบสงขลาช้าลงในเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้ กรมทางหลวงกำลังสำรวจถนนลพบุรีราเมศวร์ เพื่อหาทางเปิดช่องทางให้น้ำระบายออกสู่ทะเลสาบสงขลา หรือคลองอู่ตะเภาได้เร็วขึ้น โดยต้องประสานกับกรมชลประทาน และตรวจสอบเขตพื้นที่เอกชนอย่างรอบคอบ

*รวมข้อมูลศูนย์พักพิง ติดตามผู้พลัดหลง

นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เร่งรัดบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประสบภัยในศูนย์พักพิงต่าง ๆ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ร่วมกับกรมการปกครอง (ปค.) กระทรวงมหาดไทย และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เพื่อสนับสนุนการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบค้นหาบุคคล "HAKON" (หาคน) ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมีเป้าหมายให้ประชาชน และครอบครัว สามารถสืบค้นรายชื่อและติดตามญาติพี่น้องที่อาจพลัดหลงจากเหตุอุทกภัยได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น

โดยกระทรวงดีอี ได้สั่งการให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) จัดสรรบุคคลากรลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือการจัดทำข้อมูล ตรวจคัดกรอง และการ Data Cleansing จัดเก็บข้อมูลตามรูปแบบมาตรฐานกลาง เพื่อนำเข้าสู่ระบบและประมวลผล สามารถนำข้อมูลมาใช้งานได้อย่างเป็นระบบ และรวดเร็ว โดยให้ประสานงานร่วมกับ ปค. ในการจัดทำทะเบียนรายชื่อผู้ประสบภัยที่ยังอาศัยอยู่ในความดูแลของศูนย์พักพิงทุกแห่ง

ในส่วนระบบและการจัดเก็บข้อมูลระดับพื้นที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เตรียมโครงสร้างรองรับการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบค้นหาบุคคล "HAKON" ซึ่งเป็นไปตามมาตรการด้านความปลอดภัย และสอดคล้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกฎหมาย PDPA อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ชุดข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะมีความถูกต้อง ปลอดภัย และนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงโดยไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้ามาค้นหาญาติ หรือบุคคลสูญหาย ได้ที่ https://hakon.psu.ac.th/

"กระทรวงดีอี ให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลือ และเร่งเยียวยาประชาชนในภาวะที่สถานการณ์อุทกภัยได้เริ่มคลี่คลาย โดยการบูรณาการข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาผู้ประสบภัยที่พลัดหลง ซึ่งใช้ศักยภาพของหน่วยงานในสังกัด คือ การรวบรวมข้อมูล และจัดทำระบบข้อมูลของ BDI ร่วมกับการสำรวจ จัดทำข้อมูลเพื่อนำเข้าสู่ระบบของ สสช. บูรณาการทำงานร่วมกับ ปค. ที่เป็นหน่วยงานที่อำนวยการศูนย์พักพิงในแต่ละแห่ง ซึ่งคาดว่าจะให้เวลารวบรวมข้อมูลจากศูนย์พักพิงอื่น ๆ ภายใน 48 ชั่วโมง นอกจากศูนย์พักพิงที่อยู่ในความดูแลของ ม.สงขลานครินทร์ ซึ่งมีการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบแล้ว โดยหน่วยงานจะมีการเร่งรัดอำนวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วที่สุด" รมว.ดีอี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ