เตรียมรับมือ!! ฝุ่น PM2.5 แนวโน้มสูงขึ้นช่วง 6-9 ธ.ค.68

ข่าวทั่วไป Thursday December 4, 2025 12:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เตรียมรับมือ!! ฝุ่น PM2.5 แนวโน้มสูงขึ้นช่วง 6-9 ธ.ค.68

ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ แจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ระหว่างวันที่ 6-9 ธ.ค.68 มีแนวโน้มเกินเกณฑ์มาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่วนพื้นที่อื่นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ได้แก่ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง

สำหรับรายงานคุณภาพอากาศประจำวันที่ 4 ธ.ค.68 เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ภาพรวมปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 เกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ (สีส้ม) โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่พื้นที่ภาคอีสานสถานการณ์กลับเข้ามาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่ โดยภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 4.4-48.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.), ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9.3-32.8 มคก./ลบ.ม., ภาคกลาง และภาคตะวันตก 24.5-49.6 มคก./ลบ.ม., ภาคตะวันออก 16.9-55.9 มคก./ลบ.ม., ภาคใต้ 11.8-32.5 มคก./ลบ.ม., กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 27.3-62.1 มคก./ลบ.ม.

ปัจจุบันมีระบบแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละอองที่สำคัญ คือระบบ LINE ALERT โดยจะแจ้งเตือนเมื่อสถานการณ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) และระบบ Cell Broadcast หากสถานการณ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ช่องทางสื่อสารของกรมควบคุมมลพิษ ได้แก่ Facebook ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) และสื่อโซเชียลมีเดียอื่น เช่น YouTube, X และ TikTok เพื่อให้ประชาชนให้สามารถวางแผนการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง การจัดเตรียมอุปกรณ์ในการป้องกันตนเองสามารถลดผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นละอองได้ทันท่วงที

เนื่องจากขณะนี้กำลังเข้าสู่ฤดูกาลเปิดหีบอ้อย ศกพ.เน้นย้ำถึงนโยบายให้โรงงานควบคุมอ้อยไฟไหม้เข้าหีบไม่เกิน 15% ของปริมาณอ้อยทั้งหมดของปริมาณอ้อยทั้งหมด และยังคงขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่งทุกชนิด รวมถึงใช้รถโดยสารสาธารณะ เพื่อลดปริมาณการจราจรบนท้องถนน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ลดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นควรสวมใส่หน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันตัวเองเมื่อออกนอกบ้าน ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข และสามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองได้ผ่านเว็บไซต์ Air4Thai.pcd.go.th หรือ ทางแอปพลิเคชัน Air4Thai

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งแต่ภาคเหนือลงมา เพื่อเตรียมรับมือปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือนม.ค. โดยสั่งเข้มงวดมาตรการห้ามเผาเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์ดีขึ้นมากหลังมีการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผาวัสดุการเกษตร พร้อมระบุว่าได้มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ดูแลเรื่องมลพิษอากาศ

สำหรับการแก้ไขปัญหาการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน นายกรัฐมนตรีระบุว่า ได้มีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นหารือในการประชุมอาเซียนและเวทีต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่จะเน้นในส่วนที่สามารถควบคุมได้คือ ภายในประเทศให้มากที่สุดก่อน โดยยืนยันว่าจากการดำเนินมาตรการเต็มที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคเหนือ ทำให้จุดความร้อน (Hotspot) ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีการบูรณาการข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ โดยอำนาจการควบคุมฝุ่นจะอยู่ที่กระทรวงทรัพย์ฯ ส่วนอำนาจการดำเนินคดีและการป้องกันจะอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย

ส่วนการ Work From Home นายกฯ ระบุว่า มาตรการนี้ยังอยู่ ถ้ามีความจำเป็นและเกิดประโยชน์ก็ไม่ได้ห้าม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ