ไทย-กัมพูชา:ทบ.โต้ฮุน เซน อย่าบิดเบือน ไทยไม่ใช่ผู้รุกรานชี้กัมพูชาเริ่มก่อน

ข่าวทั่วไป Wednesday December 10, 2025 11:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ไทย-กัมพูชา:ทบ.โต้ฮุน เซน อย่าบิดเบือน ไทยไม่ใช่ผู้รุกรานชี้กัมพูชาเริ่มก่อน

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก เผยจากกรณีที่สื่อกัมพูชารายงานว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ออกแถลงการณ์ด่วนถึงกองกำลังแนวหน้า ระบุว่าขณะนี้ตนได้ลงมาบัญชาการรบร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต แล้ว และกล่าวหาว่าฝ่ายไทยคือผู้รุกราน ได้ใช้อาวุธหนักระดมยิงใส่ฝั่งกัมพูชา พร้อมกล่าวว่าเป็นกลยุทธ์ "ยั่วยุ" หวังดึงให้กัมพูชาโต้ตอบ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการฉีกสัญญาหยุดยิงและทำลายแถลงการณ์สันติภาพ พร้อมสั่งให้ทหารกัมพูชา "อดทน" โดยระบุว่ามีการกำหนด "เส้นแดง" (Red Line) สำหรับการตอบโต้ไว้แล้ว หากยังไม่ถึงจุดนั้น ห้ามหลงกลยิงสวนเด็ดขาด

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายไทยเชื่อมาตลอดว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน คือ ผู้สั่งการบังคับบัญชาตัวจริงของประเทศกัมพูชา"

ส่วนประเด็นบิดเบือนที่พยายามกล่าวหาไทยเป็น ผู้รุกราน กลับแย้งกับความจริงว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ในการนำกำลังพร้อมอาวุธเข้ามาในเขตพื้นที่อธิปไตยไทยในหลายพื้นที่ รวมทั้งการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจำนวนมากบริเวณแนวชายแดน

โดยในช่วงหยุดยิงตั้งแต่เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา พบว่าฝ่ายกัมพูชามีพฤติกรรมยั่วยุมาโดยตลอด ที่สำคัญที่สุดคือการใช้อาวุธทุ่นระเบิดทำร้ายฝ่ายไทย มีหลักฐานพิสูจน์ชัดเจน จนทำให้ฝ่ายรัฐบาลไทยขอระงับข้อตกลงร่วม เพราะผลจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กัมพูชาจึงเป็นผู้ที่ฉีกสัญญาต่าง ๆ โดยเจตนาผ่านการกระทำของตนเอง

นอกจากนี้ กัมพูชาไม่ได้ใช้ความอดทนจริงอย่างที่กล่าวไว้ เพราะจากสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม ทหารกัมพูชายิงใส่ทหารไทยอย่างโหดร้าย และไม่มีการแจ้งเตือนก่อน รวมถึงตลอดสองสามวันที่ผ่านมา กัมพูชาใช้อาวุธทุกชนิดโจมตีฝ่ายไทยด้วยปริมาณที่หนาแน่นมาตลอด ซึ่งพบว่ามีพื้นที่พลเรือนได้รับผลกระทบจำนวนมาก

โฆษกกองทัพบกยังได้กล่าวย้ำว่า กองทัพบกมีสิทธิในการป้องกันตนเอง จนกว่าภัยคุกคามในพื้นที่ชายแดนจะยุติลง เพื่อปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความปลอดภัยของประชาชนไทยตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักมนุษยธรรม ยืนยันไม่ได้เป็นฝ่ายริเริ่มความรุนแรง แต่มีหน้าที่ต้องตอบสนองต่อการล่วงละเมิดอธิปไตยอย่างจำเป็นและเหมาะสม

นอกจากนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 07.15 น. วันนี้ ทหารกัมพูชาได้ระดมยิงจรวด BM-21 เข้ามายังพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่พลเรือนในวงกว้าง ครอบคลุม ตำบลตาเมียง ตำบลบักได และตำบลจีกแดก รวมกว่า 50 นัด โดยตรวจพบว่ามีกระสุนตกบริเวณโดยรอบโรงพยาบาลพนมดงรัก จำนวน 5 ลูก

ภายหลังเกิดเหตุ หน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งอพยพผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และประชาชนพลเรือนทั้งหมดเข้าสู่พื้นที่กำบังเรียบร้อยแล้ว เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการป้องกันผลกระทบและดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

กองทัพบกขอประณามการใช้อาวุธโจมตีพื้นที่พลเรือนของกัมพูชา ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดอธิปไตยของไทย และขัดต่อหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง การยิงจรวดหลายลำกล้องเข้าสู่เขตชุมชนและบริเวณสถานพยาบาล ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่อาจยอมรับได้ และเป็นภัยอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของประชาชนผู้บริสุทธิ์ กองทัพบกยืนยันว่าจะดำเนินมาตรการป้องกันและตอบสนองต่อภัยคุกคามทุกรูปแบบอย่างเหมาะสม ภายใต้กฎการใช้กำลังตามหลักสากล เพื่อคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทยเป็นสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ