พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวในฐานะศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดย
ขณะเดียวกัน การโจมตีของกัมพูชายังส่งผลให้ประชาชนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนมาอยู่ในศูนย์พักพิง 849 จุด จำนวน 199,618 คน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 19 แห่ง รพ.สต.ได้รับผลกระทบ 180 แห่ง
"ขอประณามการกระทำของกัมพูชาที่ใช้อาวุธหนักโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเป้าหมายของประชาชน" พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการในทางการทูตคู่ขนานกันไป โดยชี้แจงไปยังองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงสื่อต่างประเทศ เช่น เลขาธิการสหประชาชาติ, ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ให้เข้าใจถึงเหตุผลในการปฏิบัติการทางทหารของไทย
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าปฏิบัติการทางการทหารของไทยเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ เพราะยังมีปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การโจมตีของกัมพูชา
กรณีกัมพูชาใช้บ้านเรือนราษฎรเป็นที่มั่นทางทหารหรือการใช้โล่มนุษย์เป็นเกาะกำบัง หรือใช้พื้นที่โบราณสถานนั้นขัดต่อหลักสากล โดยไทยได้เก็บหลักฐานไว้แล้ว และสามารถตอบโต้ได้ เพื่อป้องกันการนำไปบิดเบือนข้อมูล
นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากกองทัพเรือว่ามีประชาชนในพื้นที่สนับสนุนตาข่ายอวนเพื่อนำมาขึงป้องกันการถูกโจมตีด้วยโดรน
กรณีคนไทยในกัมพูชาให้ติดต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยเพื่อลงทะเบียนหากมีแผนอพยพ และหากจะเดินทางไปกัมพูชาขอให้ชะลอหรือเลื่อนออกไปก่อน ทั้งนี้คนไทยมีสิทธิที่จะเดินทางกลับประเทศตลอดเวลา โดยจะมีกระบวนการคัดกรองร่วมกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)
ด้าน พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงถึงการประกาศเคอร์ฟิวพื้นที่ 4 อำเภอในจังหวัดสระแก้วของกองกำลังบูรพา ตั้งแต่เวลา 19.00- 05.00 น.ตั้งแต่เมื่อวาน (10 ธ.ค.) ว่า เนื่องจากกัมพูชาได้ระดมยิงอาวุธทุกอย่างเข้ามาในพื้นที่จนส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ การประกาศเคอร์ฟิวจะช่วยให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย เพราะจะช่วยป้องกันการแทรกซึมของสายลับ และขอให้ประชาชนช่วยแจ้งข้อมูลหากพบเห็นสิ่งผิดปกติ
ขณะที่ พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า ปฏิบัติการของกองทัพอากาศนั้นได้มีการประสานกับทุกเหล่าทัพเพื่อลดทอนขีดความสามารถของกัมพูชา เช่น ทำลายคลังอาวุธ ตัดระบบการส่งกำลังบุรุง ซึ่งสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของไทย