นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อค่ำวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้รับสัญญาณที่ชัดเจนจาก สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ถึงความพร้อมในการเดินหน้าเจรจาการค้ากับประเทศไทยต่อไป
โดยสัญญาณดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ข้อเสนอของประเทศไทยมิได้ล้มเหลว และยังได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังจากฝ่ายสหรัฐฯ แม้สถานการณ์การหยุดยิงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาจะยังไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลไทยจำเป็นต้องดำเนินนโยบายและตัดสินใจทุกประเด็นโดยยึด ผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคง และความปลอดภัยของประเทศเป็นหลัก
"จุดยืนของประเทศไทยยังคงชัดเจนและสม่ำเสมอ การหยุดยิงจะสามารถเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาดำเนินการตามข้อเรียกร้องและเงื่อนไขที่ประเทศไทยเสนอไว้เท่านั้น เพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของความรับผิดชอบและการเคารพพันธกรณีระหว่างประเทศ" นายสิริพงศ์ กล่าวนอกจากนี้ยังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ว่า กระทรวงฯ ได้หารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย โดยได้เน้นย้ำถึงผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศจากการเร่งเดินหน้าเจรจาการค้า พร้อมเสนอให้ฝ่ายสหรัฐฯ พิจารณาแยกประเด็นด้านความมั่นคงออกจากประเด็นทางการค้า เพื่อไม่ให้การเจรจาล่าช้าและกระทบต่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย
โดยกระทรวงพาณิชย์ยังได้รายงานผลการหารือกับสภาธุรกิจอาเซียนสหรัฐฯ (USABC) และคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ ที่ลงทุนในประเทศไทยกว่า 40 ราย ซึ่งเห็นพ้องตรงกันว่าควรเร่งสรุปผลการเจรจาการค้าโดยเร็ว เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และประโยชน์ของผู้บริโภคทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะสินค้าที่สหรัฐฯ ไม่สามารถผลิตได้เอง เช่น ข้าวหอมมะลิไทยและสินค้าเกษตรอื่น ๆ
"จากข้อมูลที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์ เช้าวันนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้แจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่า จะประสานให้ USTR เดินหน้าการหารือในระดับเทคนิคกับฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ" นายสิริพงศ์ กล่าว