ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แถลงข่าวความเคลื่อนไหวและการปฎิบัติการทางทหาร ประจำวันที่ 19 ธ.ค. 68
- วานนี้ (18 ธ.ค.) เวลา 20:00 น. โดรนตรวจการณ์ของฝ่ายไทย ขาดการติดต่อขณะบินสังเกตการณ์บริเวณแนวชายแดน จ.สระแก้ว
- วันนี้ (19 ธ.ค.) เวลา 04:50 น. ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงอาวุธหนักเข้ามาในดินแดนอธิปไตยไทย บริเวณแนวชายแดน จ.ตราด ทำให้ฝ่ายไทยต้องตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง
- เวลา 05:00 น. ยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง บริเวณเนิน 350 จ.สุรินทร์ รวมทั้งตรวจพบความเคลื่อนไหวที่คาดว่าเป็นการส่งกำลังบำรุงของทหารกัมพูชา
- เวลา 06:00 น. ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงอาวุธหนักเข้ามาในดินแดนอธิปไตยไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ทำให้ฝ่ายไทยต้องตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง
*ข้อมูลด้านการแพทย์และสาธารณสุข ล่าสุดของวันที่ 19 ธ.ค. 68
- ประชาชนเสียชีวิต (ผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์) 22 คน
- ประชาชนเสียชีวิต (จากการโจมตีของกัมพูชา) 1 คน
- ประชาชนบาดเจ็บ (จากการโจมตีของกัมพูชา) 6 คน
- ศูนย์พักพิงชั่วคราว มีจำนวน 985 แห่ง
- ประชาชนในศูนย์พักพิง จำนวน 251,222 คน
- โรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ 20 แห่ง
- รพ.สต. ที่ได้รับผลกระทบ 201 แห่ง
พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่โดรนของไทยขาดการติดต่อไป พบว่า สัญญาณหายไปบริเวณทิศตะวันออกของปอยเปตประมาณ 10 กิโลเมตร โดยคาดว่าน่าจะเสียการควบคุมและตก ทั้งนี้ อยู่ระหว่างขั้นตอนตรวจสอบว่า ถูกโจมตีหรือไม่ หรือขัดข้องอย่างไร
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษก กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในวันที่ 22 ธ.ค. 68 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ จะร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีของอาเซียน สมัยพิเศษ พร้อมคณะผู้แทนไทย รวมถึงผู้แทนฝ่ายทหารเข้าร่วมการประชุม โดยจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนในเรื่องความมั่นคงและสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
พล.ร.ต.จุมพล นาคบัว โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศร.ชล.) กล่าวว่า ขอความร่วมมือชาวประมง และผู้ดำเนินกิจกรรมทางทะเล หากพบเห็นบุคคล เรือ ต้องสงสัย หรือมีพฤติกรรมใช้อากาศยานไร้คนขับเหนือเขตปลอดภัยแท่นขุดเจาะน้ำมัน ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจกรรมท่องเที่ยว เรือสินค้า และเรือประมง ห้ามใช้โดรนในเขตปลอดภัยแท่นผลิต การกระทำใด ๆ ของเรือ บุคคลในเรือที่เข้าเงื่อนไขตามพฤติการณ์สร้างความเสียหายต่อทรัพย์และบุคคลในส่วนของแท่นผลิตด้วยการใช้โดรน อาจเข้าข่ายจงใจก่อวินาศกรรมตามมาตรา 8 9 และ 10 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับสถานที่ผลิตปิโตรเลี่ยมในทะเล พ.ศ.2530 และ มาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.ศรชล. พ.ศ.2562 จะต้องรับโทษทั้งจำและปรับ
น.อ.ชนันนัทธ์ รอดกุล ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ไม่มีนโยบายเลือกปฎิบัติต่อผู้โดยสารทุกสัญชาติ โดยมีมาตรฐานด้านความปลอดภัย คือปฏิบัติตามข้อกำหนดของการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และ ICAO (องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ) ครอบคลุมทั้ง Safety (ความปลอดภัยการบิน) และ Security (การรักษาความปลอดภัย)
ส่วนมาตรฐานการดูแลผู้โดยสาร เน้นอำนวยความสะดวกควบคู่ความปลอดภัย มีระบบติดตาม ตรวจสอบและรับเรื่องร้องเรียน มุ่งให้บริการอย่างเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล
สำหรับกรณีที่สถานทูตกัมพูชาในฝรั่งเศส เผยแพร่ข่าวปลอมว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทย คุกคามนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเปลี่ยนเครื่องในประเทศไทยเพื่อไปยังกัมพูชา อาทิ การสอบถามเป็นเวลานานก่อนขึ้นเครื่อง การขอหลักฐานแสดงฐานะการเงินที่ไม่สมเหตุสมผล การตรวจสอบรายละเอียดการจองที่พักในกัมพูชาอย่างละเอียด และสัมภาระของผู้โดยสารสูญหายนั้น
ยืนยันว่า "ไม่เป็นความจริง"AOT ขอยืนยันว่าท่าอากาศยานของ AOT ทั้ง 6 แห่ง ได้ดำเนินการตามกฎระเบียบมาตรฐานขั้นตอนการปฏิบัติที่กำหนดด้านการรักษาความปลอดภัยต่อผู้โดยสารและสัมภาระที่ออกเดินทางจากท่าอากาศยาน ซึ่งได้รับการตรวจสอบด้านมาตรฐานการบินสากลตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ทั้งในด้านความปลอดภัย (Safety) และการรักษาความปลอดภัย (Security) เป็นไปตามมาตรฐานสากลในระดับนานาชาติเพื่อผู้โดยสารทุกท่านอย่างแท้จริง