นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย สวมชุดนายกองใหญ่ เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วย จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ และ อำนาจเจริญ โดยมี พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ร่วมเดินทางไปด้วย
โดยช่วงเช้านายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเปิดกิจกรรมโครงการ "ปิดทองเบิกฟ้า สักการะบูชา มหาราชรัชกาลที่ 1" บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
จากนั้นช่วงเที่ยงจะเดินทางไปยัง จ.สุรินทร์ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และช่วงเย็นจะเดินทางไปเป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ พลทหารธนพัฒน์ นันทะวงศ์ ที่วัดเชือกนอก จ.อำนาจเจริญ
นายอนุทิน กล่าวก่อนเดินทางว่า การหยุดยิง 72 ชั่วโมงตามข้อตกลงใน Joint Statement จะครบกำหนดวันพรุ่งนี้เวลา 12.00 น.และได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคงฯ ว่า สถานการณ์ทั่วไปเรียบร้อยดี และยังไม่ได้รับรายงานการพบโดรนบินอยู่ในหลายพื้นที่ตามที่มีข่าว
สำหรับการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่นั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา ไม่ใช่ไม่เฝ้าระวังเลย เพียงแต่ต่างฝ่ายต่างหยุดจริง ลดระดับความรุนแรงลงไปเป็นศูนย์ในเรื่องของการโจมตีซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีการป้องกันหรือเตรียมพร้อมใด ๆ
กรณีที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ จะไปพบนายหวัง อี้ รมต.ต่างประเทศของจีน เพื่อหารือทวิภาคีนั้น ได้รับรายงานว่าเดินทางไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และการพูดคุยเป็นไปได้ด้วยดี เมื่อสักครู่เพิ่งวางสาย และจะเริ่มพูดคุยกับ รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา
สำหรับการพูดคุยระหว่างนายสีหศักดิ์กับนายหวัง อี้ จะมีการตกลงอะไรร่วมกันหรือไม่ ตนยังไม่ทราบ รอให้เขาคุยกันเรียบร้อยก่อนจึงจะได้รับรายงาน แต่คงเป็นเรื่องของการพูดคุยแนวทางที่จะปฏิบัติต่อไป ตอนนี้เราเหลืออยู่ระดับทูตและระดับเจ้าหน้าที่ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเชิงการทูต เราเหลือเพียงเจ้าหน้าที่เฝ้าสถานทูตไว้เท่านั้น ส่วนจะขยับการดำเนินการด้านความสัมพันธ์อย่างไรต้องใช้เวลาและมีขั้นตอน ตอนนี้เราเน้นเรื่องของการสร้างความมั่นใจการหยุดยิง 72 ชั่วโมง จะผ่านไปทีละขั้น ๆ
ส่วนกระแสข่าวทางจีนจะให้เงินช่วยเหลือกัมพูชาเรื่องความเสียหายจากการสู้รบจำนวน 20 ล้านหยวนนั้น ในข้อเท็จจริงไทยก็ได้รับข้อเสนอนี้ด้วย ซึ่งทางการจีนแจ้งมา ส่วนไทยจะรับข้อเสนอหรือไม่นั้นต้องรอให้นายสีหศักดิ์เดินทางกลับมาแล้วหารือร่วมกันว่าทางจีนมีเงื่อนไขการช่วยเหลืออย่างไร
ส่วนการเดินทางกลับบ้านของประชาชนในศูนย์อพยพนั้นกำลังทยอยกลับในส่วนที่ทางการเห็นว่ามีความปลอดภัย เช่น ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้อพยพจาก 20,000 คน ได้รับรายงานล่าสุดเมื่อวานเหลืออยู่ประมาณ 2,000 คน เราก็ต้องช่วยกัน และขอให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งรัฐบาลจะเน้นเรื่องของความปลอดภัยเป็นสำคัญ