พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2569 และผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า วันนี้และวันพรุ่งนี้ (1 ม.ค.69) เป็นเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีประชาชนเดินทางและร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองเป็นจำนวนมาก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงเพิ่มความเข้มข้นในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะความผิดฐานเมาแล้วขับ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุร้ายแรง เพื่อป้องกันการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

สำหรับผลการปฏิบัติในวันที่ 30 ธ.ค.68 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น พบการจับกุมผู้กระทำความผิด 10 ข้อหาหลัก รวม 77,898 ราย โดยเป็นความผิดฐานเมาแล้วขับ 3,898 ราย สะท้อนให้เห็นว่ายังมีผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนไม่น้อย ที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตของตนเองและผู้อื่น
โดยพบผู้กระทำผิดซ้ำฐานเมาแล้วขับ ภายในระยะเวลา 2 ปี จำนวน 33 ราย ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับโทษในอัตราที่สูงขึ้น โดยเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับตั้งแต่ 50,000-100,000 บาท พร้อมให้ศาลสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ และต้องถูกส่งฟ้องศาลตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ขณะที่การกระทำความผิดฐานเมาแล้วขับในครั้งแรก มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยศาลสามารถใช้ดุลพินิจลงโทษทั้งจำคุกและปรับ เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำ
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ในค่ำคืนนี้ ซึ่งเป็น "คืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่" ตำรวจจะตรวจเข้มทุกสถานบริการ และสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ เน้นย้ำ "ก่อนเข้า ตรวจบัตรก่อนกลับ ตรวจเมา" โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด มีเป้าหมายเพื่อปกป้องชีวิตของประชาชนทุกคน ต้องการเห็นทุกคนเดินทางอย่างปลอดภัย