น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ว่า ได้เตรียมความฃ่วยเหลืออุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ได้รับรายงานว่าปริมาณน้ำฝนในมาเลเซีย อาจจะมากกว่าปีที่แล้;ถึง 40% ได้สั่งการให้ก.มหาดไทย และ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อุทกภัย ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะ สงขลาที่อาจจะได้รับน้ำจากประเทศมาเลเซียด้านอ.สะเดา ส่วนจ.นครศรีธรรมราช จะเป็นเส้นทาง สู่ทางใต้ตอนล่างก็ให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำพื้นที่ภาคใต้ มีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และมีกำลังแรงมากขึ้น ทำให้มีฝนตกทั่วไปและฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้พื้นที่ตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ล่ม ริมน้ำบริเวณจ.สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุงสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรังและสตูล ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมถึงน้ำล้นตลิ่ง
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมขังในกทม.และปทุมธานี สัปดาห์ที่ผานมาหลายจังหวัดกลับสู่ภาวะปกติ ระดับน้ำในเจ้าพระยาและที่ค้างทุ่งลดลง ด้านเหลือของกทม.ระดับน้ำก็ลดลงเช่นกัน เพราะกรมชลประทานเร่งระบายน้ำสู่เจ้าพระยาเต็มที่ ส่วนที่ท่วมขังได้เร่งระบายผ่านคลองรังสิตเพื่อลงสู่เจ้าพระยามากขึ้น เพราะระยะเวลาในการระบายน้ำจะสั้นลง ช่วยแบ่งเบาการระบายน้ำของกทม.และลดความเสี่ยงต่อพื้นที่ชั้นใน
ส่วนแนวทางพื้นที่ระบายน้ำกทม.และปริมณฑล ได้ให้ คณะกรรมการระบายน้ำและกรมชลประทานหารือร่วมกับผู้ว่ากทม. รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดโดยรอบกทม.รวม 6 จังหวัด เพื่อหาข้อสรุปในการปรับแนวระบายน้ำใหม่ เนื่องจากกระแสน้ำได้เปลี่ยนทิศทางไปแล้ว และการระบายน้ำในพื้นที่กทม.ทำได้ยากขึ้น จึงต้องมีการวางแผนจัดการบริหารน้ำใหม่ ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น
โดยแนวทางการบริหาจัดการน้ำอาจมีการปรับเปลี่ยนวางแนวบิ๊กแบ็กใหม่ หรือการรื้อถอนบางส่วน จะทำให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันต้องเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ต่างๆเพิ่มเติม พร้อมๆกันเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่ปริมณฑลที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ โดยจะต้องพิจารณาจากการระบายน้ำอย่างใกล้ชิด