นายวีระ วงศ์แสงนาค ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง ของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำภาพรวมที่ท่วมขังในพื้นที่กทม.ขณะนี้ถือว่าเกือบจะจบแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำที่ท่วมขังกทม.ในแต่ละวันนั้นมีปริมาณน้อยลง โดยทางด้านเหนือและฝั่งตะวันออกของกทม.ก็เหลือเพียงแต่น้ำค้างทุ่งที่การระบายน้ำต้องใช้เวลานาน เนื่องจากน้ำไม่ยอมไหลลงคลอง ต้องใช้เครื่องสูบน้ำเท่านั้น
สำหรับหมู่บ้านที่ยังน่าเป็นห่วง ได้แก่ หมู่บ้านรังสิต หมู่บ้านสีวลี และหมู่บ้านที่อยู่ด้านท้ายคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เพราะเป็นพื้นที่ที่ต่ำกว่าคลองและในขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังประมาณ 30-60 ซม. จำเป็นต้องระดมใช้เครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยระบายน้ำ ส่วนถนนวิภาวดีรังสิตที่ยังมีน้ำท่วมขังถนนอยู่เป็นบางช่วงนั้นก็จะต้องมีการเร่งดำเนินการอย่างโดยเร็วที่สุด คาดว่าน่าจะไม่เกิน 7-10 วัน สถานการณ์น้ำด้านเหนือและตะวันออกของกทม.จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
นายวีระ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของสถานการณ์น้ำด้านตะวันตกของกทม.นั้นยอมรับว่าน่าหนักใจ เนื่องจากพื้นที่ด้านตะวันตกของกทม.เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเหมือนแอ่งกะทะ ต้องใช้เวลาการระบายน้ำนานกว่าฝั่งตะวันออก อีกทั้งคลองต่างๆที่เชื่อมกับแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณน้ำในคลองจำนวนมาก ทำให้อัตราการระบายน้ำช้าลง แต่จะพยายามให้จบก่อนสิ้นปีนี้หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 15 ธ.ค. ทั้งนี้จะมีการประชุมเพื่อประเมินและวิเคราะห์น้ำที่ยังตกค้างอยู่ทุกสัปดาห์ร่วมกับทางจังหวัดต่างๆ
อย่างไรก็ตามสำหรับการประชุมระหว่างศปภ. และผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมในวันที่ 7 ธ.ค.นั้นจะเป็นการประชุมทบทวนแผนการดำเนินงานว่าจังหวัดใดได้ดำเนินการอะไรเสร็จสิ้นแล้วบ้าง และพื้นที่ใดต้องการความช่วยเหลืออย่างไร เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาต่อไป