CNN ชี้ข่าวปลิดชีพ"บิน ลาเดน" และแผ่นดินไหว-สึนามิญี่ปุ่น ติดอันดับฮอตปี 54

ข่าวต่างประเทศ Saturday December 31, 2011 14:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เว็บไซต์ CNN ได้จัด 10 อันดับข่าวที่ได้รับความสนใจสูงสุดและมีผลลกระทบมากที่สุดในรอบปี 2554 ดังต่อไปนี้ :

1. การสังหาร "โอซามา บิน ลาเดน"

เช้าตรู่ของวันที่ 2 พ.ค. หน่วยรบพิเศษของสหรัฐได้เคลื่อนพลด้วยเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ มุ่งหน้าไปยังเมืองอับบอตตาบัด เมืองเล็กๆที่ล้อมรอบด้วยหุบเขา ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงของปากีสถาน เป้าหมายคือการสังหาร โอซามา บิน ลาเดน ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรมในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 ซึ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์กว่า 3,000 คน

หน่วยรบพิเศษของสหรัฐสามารถสังหาร บิน ลาเดน ได้ตามเป้าหมาย ก่อนที่จะนำศพของเขาขึ้นไปประกอบพิธีทางศาสนาบนดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบินคาร์ล วินสัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการบรรจุศพลงในถุงที่มีการถ่วงน้ำหนัก และทิ้งร่างลงทะเล ซึ่งถือเป็นจุดจบที่น่าอนาจใจของผู้นำก่อการร้าย ที่ไม่มีประเทศใดเต็มใจรับศพไปฝังในผืนแผ่นดิน

2. เหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่น

ในช่วงเย็นของวันที่ 11 มี.ค. เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 9 ริกเตอร์ เขย่าพื้นที่ตอนเหนือของญี่ปุ่น ตามด้วยคลื่นยักษ์สึนามิที่ซัดกระหน่ำรุนแรง ซึ่งสร้างเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อทั้งระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเองและเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐที่ได้รับผลกระทบหนักสุด นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังถูกซ้ำเติมด้วยวิกฤตนิวเคลียร์ ที่เกิดจากการรั่วไหลของกัมมันรังสี และยังถูก S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ จึงทำให้ปี 2554 กลายเป็นปีที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นถูกซ้ำเติมอย่างหนักที่สุด

3. ปฏิวัติตะวันออกกลาง

การปฏิวัติตะวันออกกลางมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่นายมูฮัมหมัด บูอาซีซี บัณฑิตตกงานชาวตูนิเซีย ได้เผาตัวเองตายเพื่อประท้วงที่ถูกตำรวจจับข้อหาเปิดแผงลอยขายผักผลไม้โดยไม่มีใบอนุญาต การตายของบูอาซีซีนำไปสู่การลุกฮือของประชาชนและความสำเร็จของ "การปฎิวัติดอกมะลิ"(ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของตูนิเซีย) ที่สามารถโค่นประธานาธิบดี ไซเน เอล อาบิดีน เบน อาลี ลงจากอำนาจได้ เมื่อการปฏิวัติในตูนีเซียประสบความสำเร็จ ก็เกิดกระแสการลุกฮือไปทั่วตะวันออกกลาง ...จากตูนีเซีย ลุกลามไปยังเยเมน ซูดาน จอร์แดน อียิปต์ และในที่สุดก็ไปถึงลิเบีย ประเทศเล็กๆซึ่งปกครองโดยพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี และการปฏิวัติตะวันออกกลางในปี 2554 นี้เองที่ทำให้ กัดดาฟี ต้องพบจุดจบ

4. "กาเบรียล กิฟฟอร์ด" ส.ส.สหรัฐ ถูกลอบสังหาร ...แต่รอดตาย

ในช่วงปลายเดือนม.ค. เกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนกราดยิงเข้าใส่กลุ่มบุคคลสำคัญของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนางกาเบรียล กิฟฟอร์ด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครท แห่งรัฐอริโซนา ในงานๆหนึ่งซึ่งจัดขึ้นที่เมืองทูซอน รัฐอริโซนา โดยมีเป้าหมายที่จะสังหารบุคคลสำคัญ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้เสียชีวิต 6 คน รวมถึงพิพากษาจอห์น โรล และคนสนิทของนางกิฟฟอร์ด ส่วนนางกิฟฟอร์ดถูกยิงเข้าที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่นางกิฟฟอร์ดได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์จนรอดชีวิต และยังได้สร้างความประหลาดใจด้วยการปรากฏตัวในการประชุมสภาคองเกรส เพื่อร่วมลงมติร่างกฎหมายเพิ่มเพดาหนี้ของสหรัฐเมื่อช่วงต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

5. "สตีฟ จ๊อบส์" ผู้ก่อตั้งแอปเปิล อิงค์ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง

วันที่ 5 ต.ค. คณะผู้บริหารของบริษัท แอปเปิล อิงค์ ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า สตีฟ จ๊อบส์ ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของแอปเปิล ได้เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 56 ปี ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความเสียใจและเสียดายแก่คนทั่วโลก เพราะตลอดเส้นทางการทำงานของเขาในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา จ๊อบส์ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ โลกแห่งภาพยนตร์การ์ตูนและเสียงเพลง ด้วยการผสานบุคลิกเฉพาะตัวของเขาเข้ากับปรัชญาการดำเนินธุรกิจจนทำให้เกิดกระแสคลั่งไคล้และหลงไหลจากบรรดาสาวก และกลุ่มผู้ประกอบการ ตลอดจนบุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองทั่วโลกเป็นอย่างมาก

6. ยึดวอลล์สตรีท (Occupy Wall Street)

ในช่วงปลายเดือนส.ค. ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก เมื่อประชาชนหลายหมื่นคนในสหรัฐได้ออกมาชุมนุมประท้วงที่ย่านวอลล์สตรีท เพื่อต่อต้านความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและประฌามความโลภของกลุ่มนายทุนรายใหญ่ โดยชูแคมเปญ "Occupy Wall Street" หรือ "ยึดวอลล์สตรีท" เหตุการณ์นี้มีการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กเป็นแรงกระตุ้นในการรณรงค์ชักชวนให้ประชาชนในเมืองใหญ่ๆ ทั่วทุกมุมโลกออกมาแสดงพลังเคลื่อนไหวอย่างคึกคักเป็นประวัติการณ์ เพื่อยึดศูนย์กลางการเงินสำคัญๆทั่วโลก

7. สหรัฐเผชิญกับภัยพิบัติที่รุนแรง

ปี 2554 เป็นปีที่สหรัฐเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่สาหัสรุนแรง โดยเฉพาะสภาพอากาศที่แปรปรวน ฝนตกหนัก น้ำท่วมใหญ่ พายุเฮอริเคน ทอร์นาโด และสภาพอากาศแล้งจัด ซึ่งภัยพิบัตเหล่านี้ทำให้เกิดความเสียหายทั้งในด้านทรัพย์สินและชีวิตผู้คน

8. จำนวนคนว่างงานสหรัฐยังสูงลิ่ว

ปัญหาว่างงานในสหรัฐยังคงเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก ในฐานะที่สหรัฐเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งแม้ว่าตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 120,000 ตำแหน่ง แต่อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่สูงมากถึง 8.6% ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลในรายงานการประชุมครั้งล่าสุดว่า อัตราว่างงานของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก ซึ่งอาจจะฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2554 จนถึงต้นปี 2555

9. สหรัฐสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือ AAA

ในเดือนส.ค.ถือเป็นเดือนที่ตลาดการเงินทั่วโลกถูกเขย่ารุนแรงที่สุด เมื่อ S&P ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงเหลือ AA+ จากระดับสูงสุดที่ AAA ซึ่งถือเป็นการถูกลดอันดับเครดิตครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐ และยังฉุดดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงไปกว่า 600 จุด อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วโลกด้วย

10. พระราชพิธีเสกสมรสระหว่าง เจ้าชายวิลเลียม และ เคท มิดเดิลตัน

ข่าวพระราชพิธีเสกสมรสระหว่าง เจ้าชายวิลเลียม และน.ส. เคท มิดเดิลตัน เป็นข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วโลก โดยพระราชพิธีมีขึ้น ณ วิหารเวสต์มินสเตอร์ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญในงานนี้กว่า 1,900 คนและคาดว่ามีผู้ชมรายการถ่ายทอดสดทั่วโลกกว่า 2 พันล้านคน ในโอกาสนี้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษทรงพระราชทานพระอิสริยยศให้เจ้าชายวิลเลียมเป็น "ดยุคแห่งเคมบริดจ์" และพระราชทานอิสริยยศให้น.ส.เคท มิดเดิลตัน เป็น "ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ