นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบกรมเจ้าท่า กล่าวว่า สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำเร่งดำเนินโครงการขุดลอกฟื้นฟูแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขาเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง พร้อมหาแนวทางฟื้นฟูสภาพตลิ่งที่พังเสียหายจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา คาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี(55-57)โดยการจ้างเหมาเอกชนขุดลอกและดำเนินการขุดลอกเองปีละประมาณ 133 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณดินขุดลอกทั้งสิ้นประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมระยะทางประมาณ 3,224 กิโลเมตร
โครงการขุดลอกฟื้นฟูแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขา มีเป้าหมายคือ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งโดยการขุดลอกเพิ่มพื้นที่หน้าตัดของแม่น้ำ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการระบายน้ำในฤดูน้ำหลาก และเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำในฤดูแล้ง อีกทั้งการแก้ไขปัญหาตลิ่งพังทลายจากการถูกกระแสน้ำกัดเซาะอันเนื่องมาจากน้ำหลากและการเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำ พร้อมทั้งปรับปรุงและฟื้นฟูแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขาให้มีความกว้างและเกิดความสวยงามเพื่อแก้ไขและป้องกันการบุกรุกล้ำลำน้ำโดยการปักหลักเขตควบคุมทางน้ำ นอกจากนี้กรมเจ้าท่ายังส่งเสริมและเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันอนุรักษ์แม่น้ำและส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ
"มาตรการต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำตามธรรมชาติและเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำของลำน้ำ จะช่วยแก้ไขปัญหาอุทกภัยซึ่งเกิดขึ้นอย่างซ้ำซากและเป็นการรักษาสภาพลำน้ำให้คงสภาพตามธรรมชาติตลอดจนเพิ่มพื้นที่แก้มลิงธรรมชาติให้ลำน้ำสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ในฤดูแล้งต่อไป"นายถวัลย์รัฐ กล่าว
สำหรับแนวทางในการฟื้นฟูสภาพตลิ่งที่เสียหายจากเหตุอุทกภัย กรมเจ้าท่าได้มีการศึกษาและวางแผนแม่บทสำหรับป้องกัน แก้ไขปัญหาการกัดเซาะและพังทลายของตลิ่งในแม่น้ำสายต่าง ๆ ไว้และขอรับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังริมแม่น้ำเกือบทุกสายทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมาทางองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ผู้นำชุมชนท้องถิ่น ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องรวมทั้งบริเวณพื้นที่ที่มีสภาพปัญหาการกัดเซาะรุนแรง อันเนื่องมาจากความตื้นเขินของลำน้ำและสภาพทางน้ำที่แคบ อยู่ในแผนงานที่มีความจำเป็นต้องขุดลอกเพื่อพัฒนาร่องน้ำทางเรือเดิน
จากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมานั้น กรมเจ้าท่าได้เร่งสำรวจความเสียหายสภาพตลิ่งและหาแนวทางป้องกันแก้ไข โดยการขุดลอกปรับเปลี่ยนแนวทางน้ำพร้อมนำเอาวัสดุที่ขุดลอกได้ไปทำการปรับแต่งตลิ่ง ที่เสียหาย หรือทำการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งตามรูปแบบที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยจะใช้งบประมาณที่ขอรับการจัดสรรในเรื่องฟื้นฟูและของบประมาณกลางปี 2555 มาดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสภาพตลิ่งที่เสียหายต่อไป
การดำเนินการที่ผ่านมาในเรื่องการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง กรมเจ้าท่าได้ของบฟื้นฟูน้ำท่วม จำนวน 329 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังในบริเวณที่พังทลายจากอุทกภัย (ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เขตภาคกลาง) แต่เนื่องจากการก่อสร้างโครงการใหม่ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ในการพิจารณางบฟื้นฟูน้ำท่วม จึงไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ
อย่างไรก็ดี กรมเจ้าท่าได้รับเรื่องร้องขอให้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง เพื่อประกอบการของบประมาณในการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังในโอกาสต่อไป โดยจะได้ดำเนินการสำรวจพื้นที่ภายหลังจากที่ระดับน้ำในแม่น้ำลดลง ทั้งนี้เพื่อให้เห็นสภาพปัญหา ความรุนแรง ของการกัดเซาะตลิ่ง ในชั้นต้นกรมเจ้าท่าได้ดำเนินการสำรวจตรวจสอบพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ( มหาสารคาม,จะดำเนินการสำรวจพื้นที่ในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, นครสวรรค์, อ่างทอง, พิจิตร และปราจีนบุรี ในลำดับต่อไป สำหรับพื้นที่/จังหวัดอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาที่ประสบปัญหาตลิ่งพังจากอุทกภัย เพื่อดำเนินการสำรวจโดยเร็วต่อไป