กฟผ.แจงน้ำท่วมอยุธยาเพราะฝนตกหนัก 2-3 ก.พ. ไม่ใช่จากระบายน้ำเขื่อนใหญ่

ข่าวทั่วไป Thursday February 9, 2012 17:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ระดับน้ำในแม่น้ำน้อยเพิ่มสูงขึ้นล้นตลิ่งจนท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำใน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาว่า สาเหตุเกิดจากช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกหนักในบริเวณลำน้ำแม่น้ำน้อย โดยเฉพาะในวันที่ 2-3 ก.พ.มีฝนตกเป็นวงกว้างทั้งภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ปริมาณฝนในภาคเหนือตอนล่างสูงสุด 50.2 มม.ที่สวนป่าเขากระยาง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 2 ก.พ.55 และภาคกลางสูงสุด 58.6 มม. ที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 3 ก.พ.55

ล่าสุด เที่ยงคืนที่ผ่านมาเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 10,712 ล้าน ลบ.ม.หรือ 79.57% มีการระบายน้ำวันละ 60 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 7,352 ล้าน ลบ.ม. หรือ 77.31% มีการระบายน้ำวันละ 49 ล้าน ลบ.ม.รวมระบายน้ำจากทั้งสองเขื่อนปริมาณวันละ 109 ล้าน ลบ.ม.หรือ 1,261 ลบ.ม./วินาที เป็นไปตามแผนการระบายน้ำที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ(กยน.)ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.

ปริมาณน้ำส่วนใหญ่ผันไปใช้ในพื้นที่ชลประทาน ทำให้ปริมาณน้ำที่เหลือรวมกับน้ำธรรมชาติที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท อัตราการไหลระหว่าง 710-734 ลบ.ม./วินาที ซึ่งมากกว่าช่วงสัปดาห์ก่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่น่าส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบริเวณดังกล่าว

ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ กฟผ. ยืนยันว่า พื้นที่ด้านท้ายน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ลงไปจนถึง จ.อยุธยา ไม่มีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง และยังสามารถรับน้ำได้โดยไม่มีปัญหา จึงยังคงระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ตามเดิม สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ กฟผ.ได้ประสานงานไปยังกรมชลประทานได้รับทราบมาว่า กรมชลประทานกำลังเร่งดำเนินการจัดการระบายน้ำในบริเวณดังกล่าวให้ไหลลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ สถานการณ์น้ำก็จะคลี่คลายและเข้าสู่สภาวะปกติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ