รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านทาง พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รักษาการเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลวางระบบป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติภัยในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมจนส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานของบริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และกรณีโรงงานของ บมจ.อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์(ประเทศไทย) หรือ ABCT เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
"เครือข่ายฯ เสนอให้มีมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบจริงจังและยั่งยืนต่อกรณีอุบัติภัยสารเคมี และเปิดเผยข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างโปร่งใสต่อสาธารณชน" นายสุทธิ กล่าว
นายสุทธิ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลและโรงงานอุตสาหกรรมนำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติปี 2553-2557 มาบังคับใช้อย่างจริงจัง พร้อมกับฟื้นฟูและบำบัดผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สิ่งแวดล้อม สุขภาพ และสังคม รวมไปถึงการสร้างระบบการชดเชย เยียวยาอย่างเป็นระบบ มีความเป็นธรรม และยั่งยืนต่อผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ต้องดำเนินคดีทางกฎหมายต่อหน่วยงานที่กระทำผิด ฐานละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงจัดทำประกาศผังเมืองรวมอย่างมีประสิทธิภาพ ให้มีการจัดทำแนวกันชนและแนวป้องกัน
อย่างไรก็ตาม เครือข่ายฯ เสนอให้จัดทำบัญชีถือครองวัตถุอันตราย บัญชีการระบายมลพิษ และแจ้งให้สาธารณชนรับทราบพร้อมกับเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการไตรภาคีที่จะตรวจสอบโรงงานทั้งหมด และให้มีการทบทวนระงับนโยบายการลงทุนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั้งในและนอกอุตสาหกรรมภายในประเทศไทย
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มเติมต่อคณะกรรมาธิการเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนต่อไป