นางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม ทางสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ปรับแผนการปฏิบัติงานและการใช้เครื่องบินของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในภาคเหนือ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพความต้องการน้ำของเกษตรกรในพื้นที่ โดยตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นมา ได้ดำเนินการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.ตาก โดยใช้เครื่องบิน Cessna Caravan จำนวน 2 เครื่อง เพื่อการปฏิบัติงาน ซึ่งเคลื่อนย้ายมาจากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ และได้ปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ. เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้รับปริมาณน้ำเพียงพอกับความต้องการแล้วและเริ่มมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง ปรับแผนการปฏิบัติงาน โดยจัดตั้งฐานเติมสารฝนหลวง จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นมา เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ภาคกลางตอนบน
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในภาคตะวันออก ได้จัดตั้งฐานเติมสารฝนหลวง จ.สระแก้ว ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นมา เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ภาคตะวันออกตอนบน ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก ได้เคลื่อนย้ายหน่วยปฏิบัติการ ฝนหลวง จ.จันทบุรี ไปตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.ปราจีนบุรีแทน เนื่องจากบริเวณ จ.จันทบุรี และจังหวัดใกล้เคียงได้รับปริมาณน้ำเพียงพอกับความต้องการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 เป็นต้นมา เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบริเวณภาคตะวันออกตอนบน ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี นครนายก สระแก้ว และ ฉะเชิงเทรา
ส่วนศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ได้ปรับแผนการปฏิบัติงานและการใช้เครื่องบิน โดยยกระดับฐานเติมสารฝนหลวง อ. หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นมา โดยใช้เครื่องบิน Cessna Caravan จำนวน 3 เครื่อง สำหรับปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคม 2555 มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง รวม 29 วัน มีฝนตก 29 วัน ขึ้นบินปฏิบัติงาน รวมจำนวน 922 เที่ยวบิน