น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย และความคืบหน้าการดำเนินการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย ผ่านระบบการประชุมทางไกลวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ของกระทรวงมหาดไทย ไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรและหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด ณ ศาลากลางจังหวัด โดยมีคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เข้าร่วมการประชุม
ในการประชุมวันนี้ มีการหารือในเรื่องต่าง ๆ ประกอบด้วย แนวทางการทำงานในพื้นที่แต่ละจังหวัดทั้งในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ความคาดหวังของรัฐบาลที่จะทำงานร่วมกับพื้นที่รวมถึงท้องถิ่นในการดูแลประชาชน การลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีที่จะลงพื้นที่ใน 31 จังหวัดเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ และจะมีการติดตามการทำงานในภาพรวมรอยเชื่อมต่อของจังหวัดตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยขณะนี้มีภาวะปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมากที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ซึ่งได้สั่งการให้รัฐมนตรีลงไปกำกับดูแลในพื้นที่แล้ว วันนี้จึงขอรับฟังรายงานภาพรวมสถานการณ์ล่าสุดของประเทศและแต่ละจังหวัด
ทั้งนี้ นายกฯ ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงพื้นที่ดูแลพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังทั้งหมด ให้ดูแลประชาชนให้ทั่วถึง รวมถึงดูแลการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้ฟื้นจากสถานการณ์โดยเร็ว เพราะปีที่ผ่านมาประชาชนต้องเผชิญกับปัญหา จึงไม่อยากเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ร้างลาและไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว
นอกจากนี้ อยากเห็นการทำงานในท้องที่ร่วมกันและ ประสานงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) เพื่อความอุ่นใจของประชาชน โดยขอให้ผู้ว่าฯ และผบก.ภ.จว. ลงสำรวจพื้นที่ให้แน่ใจว่าการดูแลความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนมีความทั่วถึง อย่าให้เห็นจากข่าวก่อนที่จะได้รับการรายงานจากจังหวัด ทั้งนี้ ขอให้ช่วยกันตรวจตราเน้นในเชิงลึกมากขึ้นรวมทั้งเชิงรุกด้วย เพราะบางครั้งประชาชนไม่รู้ว่าจะแจ้งได้ที่ไหน ซึ่งผู้ว่าฯ และผบก.ภ.จว. เป็นผู้อยู่ในพื้นที่ที่สามารถใช้กลไกของท้องถิ่นทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดได้
พร้อมกันนี้ ได้สอบถามถึงระบบเตือนภัยที่ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้ไปติดตั้งในพื้นที่ต่าง ๆ ที่พบว่าใช้การได้ดี โดยขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้ลงพื้นที่สำรวจระบบเตือนภัย หากมีอุปกรณ์ไม่สมบูรณ์ให้เร่งปรับปรุงโดยด่วน และให้เชื่อมโยงระบบเข้ากับชุมชนให้ทันกับฤดูฝนนี้ พร้อมกับให้ กบอ. และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามและติดตั้งระบบเตือนภัยให้ครบทุกพื้นที่โดยเฉพาะในชุมชนที่มีฝนตกหนักและน้ำท่วมขังบ่อย
ส่วนสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้นั้น นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) และ กบอ. กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนเริ่มลดลง คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็ววันนี้ โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและเตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชน