สธ.คาดโรคมือเท้าปากคลี่คลายใน 6 สัปดาห์, กทม.ยันควบคุมสถานการณ์ได้

ข่าวทั่วไป Tuesday July 31, 2012 15:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) คาดสถานการณ์โรคมือเท้าปากที่มีแนวโน้มคลี่คลายดีขึ้นจะกลับคืนสู่ภาวะปกติในอีก 6 สัปดาห์ โดยทุกจังหวัดยังคงใช้มาตรการเฝ้าระวังควบคุมโรคมือเท้าปากอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะนำผู้ปกครองนำบุตรหลานที่ป่วยพบแพทย์เพราะอาการช่วงแรกของโรคมือเท้าปากคล้ายกับโรคไข้เลือดออกที่ระบาดในช่วงฤดูฝนเช่นกัน

"ได้ให้ทุกจังหวัดรายงานผลการดำเนินงานในศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาลที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งในเรื่องการให้ความรู้ผู้บริหารโรงเรียนในเรื่องของมาตรการการป้องกันโรค รวมทั้งผลการดำเนินการตรวจคัดกรองเด็ก การควบคุมตัดวงจรเชื้อโรค คาดว่าหากการระบาดชะลอตัวไปเช่นนี้เรื่อยๆ สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติประมาณ 6 สัปดาห์" นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าว

สำหรับสถานการณ์โรคมือเท้าปากมีแนวโน้มชะลอตัว โดยในช่วง 3 สัปดาห์ก่อนพบผู้ป่วยสัปดาห์ละประมาณ 1,200-2,000 ราย แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยกว่า 800 รายเท่านั้น จึงถือสถานการณ์ดีขึ้น โดยพื้นที่ที่มีการระบาดส่วนใหญ่ยังเป็นในเขตกรุงเทพมหานคร(กทม.) เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีคนอยู่หนาแน่น พื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใต้ และภาคตะวันออก ส่วนจังหวัดทางภาคเหนือการระบาดของโรคเริ่มชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม สธ.ยังไม่ประมาท ยังคงเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดดำเนินการควบคุมและตัดวงจรเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคมือเท้าปากในสถานที่เสี่ยงหลักของโรคนี้ คือโรงเรียนอนุบาลและศูนย์เด็กเล็กทุกแห่ง ทั้งสังกัดภาครัฐและเอกชน โดยใช้วิธีการทำความสะอาด การตรวจคัดกรองเด็ก เด็กที่ป่วยให้หยุดเรียนและกลับไปพักที่บ้าน ตลอดจนการให้ความรู้ผู้ปกครองในเรื่องการดูแลเด็ก ทั้งเรื่องอาหาร ความสะอาด สถานที่ เครื่องใช้ เครื่องเล่นต่างๆ หากพบเด็กป่วย คือมีไข้สูง ซึม อาเจียน ปวดศีรษะมาก มีอาการเหนื่อย หอบ ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากในช่วงฤดูฝน เด็กจะมีความเสี่ยงป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกซึ่งระบาดในช่วงนี้เช่นกัน และมีอาการป่วยช่วงแรกคล้ายคลึงกัน คือมีไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน หากรีบพาไปพบแพทย์ ก็จะสามารถให้การดูแลได้อย่างถูกต้อง เพราะการรักษาทั้ง 2 โรคนี้ไม่มียาเฉพาะ ใช้วิธีการดูแลตามอาการของผู้ป่วย ซึ่งได้เน้นย้ำให้กุมารแพทย์ทุกจังหวัดดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดเป็นกรณีพิเศษ

ขณะที่สถานการณ์โรคไข้เลือดตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.ถึงปัจจุบันพบผู้ป่วยไข้เลือดออกทั่วประเทศสะสม 26,079 ราย ส่วนใหญ่รักษาหาย มีรายงานเสียชีวิต 27 ราย ซึ่งถือว่ายังไม่มากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 54 ที่พบผู้ป่วยทั้งหมด 43,227 ราย เสียชีวิต 38 ราย โดยได้ให้ทุกจังหวัดดูแลอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกับโรคมือเท้าปาก ทั้งการป้องกันโรค การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทั้งในบ้านและรอบๆ บ้าน โรงเรียน และวัด

ด้าน พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สถานการณ์โรคดังกล่าวในพื้นที่ กทม.มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ และยังไม่พบผู้เสียชีวิต ซึ่งคาดว่าในช่วงเดือน ส.ค.นี้จะไม่มีผู้ป่วยเพิ่มและควบคุมสถานการณ์ของโรคได้ แต่ก็ไม่ได้ประมาทเช่นกัน ยังมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ได้มอบหมายให้ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง และสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต รณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ทำความสะอาดพื้นที่เสี่ยงต่างๆ อาทิ ศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียน สวนสนุก ห้างสรรพสินค้า สนามเด็กเล่น และสถานที่สาธารณะที่มีคนมารวมกันจำนวนมาก อีกทั้งจัดทำมาตรการป้องกันในโรงเรียนโดยให้โรงเรียนคัดกรองเด็กก่อนเข้าเรียน ทำความสะอาดห้องเรียน โต๊ะเรียน ของเล่น และอุปกรณ์การเรียน รวมถึงให้เด็กล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง และให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่เด็กและผู้ปกครองให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมือ เท้า ปาก สามารถป้องกันโรคได้อย่างถูกวิธี ไม่ตื่นตระหนกกับโรคดังกล่าวเพราะถือเป็นโรคที่พบทุกปี

ทั้งนี้ ปัจจุบันเหลือเพียงโรงเรียนที่ปิดเรียนแห่งเดียว คือ โรงเรียนวัดธรรมาภิตาราม ซึ่งจะเปิดเรียนตามปกติในวันที่ 6 ส.ค.55 และมีโรงเรียนที่ปิดเรียนบางส่วน 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนคลองมะขามเทศ โรงเรียนอนุบาลปานตะวัน โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ซึ่งจะทยอยเปิดจนครบในสัปดาห์หน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ