นายกฯ หนุนไทยเป็นเมดิคัลฮับ หวังดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ 8 แสนลบ.ใน 5 ปี

ข่าวทั่วไป Thursday August 30, 2012 17:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ(Medical Hub) ในการเป็นผู้นำด้านสุขภาพระดับโลกทั้งบุคลากร เทคโนโลยี และคุณภาพบริการทั้งการแพทย์แผนปัจจุบันและแผนไทย เพื่อแสดงความพร้อมรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 และการเปิดเสรีทางการค้าโลก หวังสร้างรายได้เข้าประเทศคู่ขนานกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโลก คาดอีก 5 ปีบริการทางการแพทย์จะดึงเม็ดเงินเข้าประเทศสูงถึง 800,000 ล้านบาท

"นโยบายเมดิคัลฮับ ถือเป็นหนึ่งนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่กระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการทำงานและเชื่อมโยงกับทุกภาคส่วนจนประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง...ภายใน 3 ปีนี้ ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งธุรกิจบริการสุขภาพเป็นสาขาหนึ่งที่รัฐบาลเร่งรัด และต้องการพัฒนาและยกระดับระบบสารสนเทศทางด้านสุขภาพให้ทันสมัย เพื่อการสืบค้นข้อมูลด้านบริการสุขภาพให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเปิดงานไทยแลนด์ เมดิคัล ฮับ เอ็กซ์โป 2012 ที่เมืองทองธานี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศเจตนารมณ์มุ่งมั่นให้ประชาชนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงบริการหลักของประเทศได้ โดยเฉพาะโครงการ 30 บาทที่ประเทศไทยดำเนินการจนประสบผลสำเร็จ ต่างประเทศให้การยอมรับ และหลายประเทศนำแบบอย่างของไทยไปประยุกต์ใช้ รวมทั้งรัฐบาลยังสนับสนุนให้มีการพัฒนาศูนย์รักษาพยาบาลระดับเชี่ยวชาญ(Excellent Center) ครอบคลุมทุกภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพใกล้บ้าน และสนับสนุนการบริการเฉพาะทาง เช่นการรักษาโรคหัวใจ การผ่าตัดศัลยกรรม บริการด้านความงาม เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ทำให้ต่างชาตินิยมเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล สร้างรายได้ให้ประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการเดินทางไปเยือนต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา หลายประเทศได้สนใจที่จะพัฒนาความร่วมมือด้านธุรกิจสุขภาพร่วมกับประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลได้เห็นชอบในการอำนวยความสะดวกขยายเวลาพำนักในไทยให้นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับที่นิยมเดินทางมารักษาพยาบาลในประเทศไทย ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ รัฐกาตาร์ รัฐคูเวต รัฐสุลต่านโอมาน และรัฐบาห์เรน จาก 30 วันเป็น 90 วัน โดยไม่ต้องทำวีซ่า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการส่งเสริมภาพลักษณ์การเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก รวมทั้งองค์ความรู้ภูมิปัญญาไทย ได้แก่ นวดไทย สมุนไพร

"การแพทย์แผนไทยที่นำมาต่อยอดเป็นที่ยอมรับของนานาชาติจะยิ่งทำให้การเป็นเมืองท่องเที่ยวของไทยได้รับการยอมรับมากขึ้น โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้มีการพัฒนานวัตกรรมบริการสุขภาพเพิ่มขีดความสามารถในด้านนี้ มั่นใจว่าจะทำให้นโยบายเมดดิคัลฮับประสบผลสำเร็จ กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ สร้างงานและอาชีพให้ชาวไทยทั้งประเทศ" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

ในงานได้จัดกิจกรรมพิเศษทำลายสถิติโลกแสดงการนวดไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาพอย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยหมอนวดแผนไทยที่ได้ผ่านการอบรมจากหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 641 คู่ เพื่อสร้างสถิติโลกใหม่บันทึกในกินเนสบุ๊ค ทั้งจำนวนและนวดพร้อมกันนาน 12 นาที หลังจากประเทศออสเตรเลียเคยสร้างสถิตินวดจำนวน 263 คู่ พร้อมกันเป็นเวลา 5 นาที เมื่อปี 53

ด้านนายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 47 กระทรวงฯ ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์รองรับการดำเนินงาน 4 ด้าน ได้แก่ 1.บริการการรักษาพยาบาล 2.บริการการส่งเสริมสุขภาพ 3.บริการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และ 4.ผลิตภัณฑ์สุขภาพและสมุนไพรไทยให้ได้มาตรฐานจีเอ็มพี(GMP) ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ มีบริการเฉพาะสำหรับชาวต่างชาติ มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ต้องรอคิวนาน ราคาเหมาะสม นอกจากนี้ประชาชนในประเทศยังมีสุขภาพดีขึ้น เข้าถึงการบริการสุขภาพได้ง่าย

ปัจจุบันโรงพยาบาลเอกชนของไทยผ่านการรับรองมาตรฐานเจซีไอ(JCI:Joint Commission International) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติถึง 22 แห่ง ซึ่งจะมีการให้บริการทำวีซ่าในโรงพยาบาลด้วย จัดว่ามากอันดับ 1 ในเอเชีย ทำให้ไทยได้เปรียบประเทศอื่นๆ มาก

นอกจากนี้ยังพบว่าบริการสปาและการนวดไทยเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศปีละ 12,813 ล้านบาท มีสปาผ่านเกณฑ์การรับรองของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว 1,436 แห่ง และพัฒนาต่อยอดยกระดับมาตรฐานสปาเพื่อสุขภาพในระดับสากล 3 ระดับ คือ แพลตินัม(Platinum) โกลด์(Gold) และซิลเวอร์(Silver) ขณะนี้ผ่านการรับรองแล้ว 33 แห่ง โดยมีหมอนวดไทยที่ผ่านการอบรมการนวดเพื่อสุขภาพ 400 ชั่วโมงแล้วเกือบ 50,000 คน

สำหรับผลการประเมินเมดดิคัลฮับในปีนี้มีต่างชาติเดินทางมารักษาในประเทศไทย 2.5 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 121,658 ล้านบาท ต่างชาติที่เข้ามามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย บริการที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ศัลยกรรมกระดูก ผ่าตัดโรคหัวใจ ศัลยกรรมความงาม ทันตกรรม โรคทางเดินอาหาร ตรวจสุขภาพ คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มเป็น 800,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ