นายอดิศักดิ์ ขันตี รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ(สนน.) กทม.เปิดเผยว่า อุโมงค์ระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้ง 7 อุโมงค์ได้เปิดเดินเครื่องทำงาน และเช็กความพร้อมอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากขณะนี้สภาพอากาศมีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมาณมาก โดยเฉพาะในคืนวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งปริมาณฝนตกลงมามากที่สุดในรอบปี โดยรวมปริมาณฝนฝั่งพระนครทั้งหมด 60 ล้านลบ.ม. และระยะนี้จะยังมีฝนตกไปจนถึงเดือน พ.ย.
ทั้งนี้ อุโมงค์ระบายน้ำของ กทม.ทั้ง 7 แห่งสามารถเดินระบบทำงานได้ตามปกติ ยืนยันว่าไม่ได้เกิดความเสียหายหรือใช้การไม่ได้แต่อย่างใด หากเครื่องมีปัญหาก็เร่งจัดซ่อม แต่จะไม่กระทบต่อการเดินระบบระบายน้ำโดยรวม ซึ่งน้ำที่ท่วมขังบนผิวการจราจรหรือที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำก็จะใช้เวลาในการระบายแตกต่างกันตามปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา การเดินระบบที่ผ่านมาใช้ค่าไฟจำนวนมหาศาลเช่นในปี 54 ที่ผ่านมาที่ปริมาณฝนตลอดทั้งปีมากเป็นประวัติการณ์ ใช้ค่ากระแสไฟฟ้าไปกว่า 100 ล้านบาท ซึ่ง กทม.เปิดเดินระบบเต็มที่เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ กทม. เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด
สำหรับอุโมงค์ระบายน้ำทั้ง 7 แห่งประกอบด้วย อุโมงค์ระบายน้ำซอยสุขุมวิท 26, ระบบผันน้ำคลองเปรมประชากร, ระบบระบายน้ำพื้นที่เขตพญาไท, อุโมงค์ระบายน้ำซอยสุขุมวิท 36, อุโมงค์ระบายน้ำซอยสุขุมวิท 42, อุโมงค์ระบายน้ำจากบึงมักกะสันลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 (อุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำจากคลองแสนแสบ คลองลาดพร้าวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา)
ส่วนปัญหากรณีมีประชาชนสร้างบ้านเรือนรุกล้ำคลองและแม่น้ำที่เป็นอุปสรรคในการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้นเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องประสานงานเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาหลายฝ่ายทำอย่างต่อเนื่องจริงจัง ลำพัง กทม.เพียงหน่วยงานเดียวคงไม่สามารถแก้ไขได้เป็นเรื่องที่สะสมมานาน 20—30 ปีแล้ว