กทม.พร่องน้ำคลองสายหลัก-แก้มลิงรับฝนหนัก 14-17ก.ย.55,พร้อมป้องกันน้ำท่วมทุกจุด

ข่าวทั่วไป Wednesday September 12, 2012 18:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า กทม.ได้กำชับทุกหน่วยงานเพิ่มการเฝ้าระวังสภาพอากาศและการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมที่จะพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 14-17 ก.ย.55 ซึ่งจะทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ประกอบสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือ

โดยขณะนี้ กทม.ได้พร่องน้ำในคลองสายหลักและแก้มลิง เช่น คลองแสนแสบ ช่วงถ.สุขุมวิท ถ.เพชรบุรี และถ.คลองตัน ที่ระดับ -60 ซม.จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และพร่องน้ำช่วงบริเวณสะพานผ่านฟ้า ที่ระดับ —1 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง อีกทั้งตรวจสอบบริเวณจุดฟันหลอรวมถึงเร่งดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อยและคลองมหาสวัสดิ์ และเสริมแนวกระสอบทรายในจุดเสี่ยงต่างๆ ด้วย

พร้อมกันนี้ ยังได้สั่งการให้ทุกสำนักงานเขตตื่นตัวในการเฝ้าระวังพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณจุดอ่อนน้ำท่วม และเก็บขยะบริเวณหน้าตะแกรงต่างๆ ในช่วงฝนตกเพื่อให้การระบายน้ำสะดวกยิ่งขึ้น ตลอดจนให้สำนักงานเขตประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนรวมถึงให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วม 27 ชุมชน เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูงขึ้น 1.50-1.60 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางในช่วงเดียวกันนี้ พร้อมกันนี้ กทม.ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานครลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติงานทุกพื้นที่เขตอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ กทม.ได้เตรียมความพร้อมระบบป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ทุกจุด พร้อมทั้งแผนการระบายน้ำเหนือออกจากพื้นที่ ซึ่งกทม.อยากให้มีการระบายน้ำออกทางด้านตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพฯ เนื่องจากไม่ใช่พื้นที่เศรษฐกิจและมีชุมชนหนาแน่นน้อย แต่หากรัฐบาลต้องการระบายน้ำจากทางเหนือสู่แม่น้ำเจ้าพระยา กทม.ก็เตรียมพร้อมแผนการป้องกันและการระบายน้ำในพื้นที่อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำ กทม. ได้รายงานสภาพอากาศและปริมาณฝนในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่กรุงเทพฯ ในปัจจุบันยังไม่น่าห่วง แต่ต้องเฝ้าระวังหากเกิดพายุฝน โดยปริมาณฝนตั้งแต่ ม.ค.55- 12 ก.ย.55 วัดได้ 942.5 มิลลิเมตร ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 21 ปีร้อยละ 20 ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ ยังมีศักยภาพในรองรับน้ำได้อีกเมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2554 และปัจจุบัน เช่น เขื่อนภูมิพล เมื่อปี 2554 มีปริมาณน้ำในเขื่อนร้อยละ 84 ส่วนปี 2555 มีปริมาณน้ำร้อยละ 52 เขื่อนสิริกิติ์ เมื่อปี 2554 มีปริมาณน้ำในเขื่อนร้อยละ 95.25 ส่วนปี 2555 มีปริมาณน้ำร้อยละ 61.17 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เมื่อปี 2554 มีปริมาณน้ำในเขื่อนร้อยละ 78.38 ส่วนปี 2555 มีปริมาณน้ำร้อยละ 40.66

ในส่วนของปริมาณน้ำเหนือที่ปล่อยลงมาท้ายเขื่อนเจ้าพระยายังไม่น่าห่วง เนื่องจากในปัจจุบันปล่อยน้ำลงมาในปริมาณ 1,798 ลบ.ม./วินาที ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2554 ปล่อยน้ำท้ายเขื่อนที่ปริมาณ 3,000 ลบ.ม./วินาที โดยปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันอยู่ที่2,000 ลบ.ม./วินาที ขณะที่ปี 2554 ไหลผ่านปริมาณ 3,000 ลบ.ม./วินาที สำหรับระดับน้ำที่ อ.บางไทร ปัจจุบันสูง 1.71 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนปี 2554 อยู่ที่ระดับ 3 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง อย่างไรก็ตามจะต้องเฝ้าระวังหากมีฝนตกใต้เขื่อนเจ้าพระยา ส่วนสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงสุดจะเกิดในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย. และ 15 ธ.ค.55


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ