น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพยายามดูแลและบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มที่ แต่การทำงานร่วมกับ กทม.เป็นไปในลักษณะของการประสานงานมากกว่าการสั่งการ และที่ผ่านมาได้ประสานความร่วมมือกันตลอด ส่วนสาเหตุที่เกิดน้ำท่วมขังหลายจุดเมื่อวานนี้น่าจะมาจากมีฝนตกหนัก ทำให้การระบายน้ำไม่ทัน และอาจจะมีสิ่งกีดขวางที่เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลจะไม่เข้าไปตรวจสอบและบริหารจัดการน้ำแทนกรุงเทพมหานคร(กทม.) หลังมีฝนตกหนักจนเกิดปัญหาน้ำท่วมขังหลายจุด แต่จะประสานขอความร่วมมือไปยัง กทม.อย่างใกล้ชิด
"จะเข้าไปตรวจอย่างไร ก็ต้องได้รับความร่วมมือ อยู่ๆจะไปทำเองโดยไม่มีเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครคงจะไม่ได้ คงต้องทำงานร่วมกัน ซึ่ง กบอ.ก็ทำงานกับสำนักระบายน้ำอยู่แล้ว" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ ตนเองได้สั่งการให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ประสานกับผู้บริหาร กทม.เพื่อขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการบ้านจัดสรรให้ช่วยตรวจสอบระบบการระบายน้ำด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่บ้านจัดสรรได้ ส่วนกรณีที่มีทรายที่นำมาใช้ป้องกันน้ำท่วมในช่วงปลายปีก่อนตกค้างตามท่อระบายน้ำนั้นได้สั่งการให้กรมราชทันฑ์ดำเนินการขุดลอกท่อระบายน้ำแล้ว และได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนเพื่อร่วมกันดูแลและรักษาคูคลองตามโครงการร่วมแรงไทย รักษาน้ำใสทุกคูคลอง
สำหรับประสิทธิภาพการระบายน้ำของอุโมงค์ยักษ์นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องทางเทคนิคที่ต้องตรวจสอบประสิทธิภาพของอุโมงค์ยักษ์ ซึ่ง กทม.จะเป็นผู้ให้ข้อมูลได้ดีที่สุด