นายกฯ ห่วงสถานการณ์ใต้ มอบ"ยุทธศักดิ์"ลงพื้นที่พรุ่งนี้

ข่าวทั่วไป Monday October 22, 2012 15:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรจะเริ่มขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้ที่ประชุมทราบใน 2 เรื่องคือได้แสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงมีเหตุปะทะกัน โดยนายกฯได้มอบหมายให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ เพื่อรวบรวมข้อมูลและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในวันที่ 23 ต.ค.นี้ เพิ่มเติมจากที่พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ที่ได้ลงพื้นที่และสร้างขวัญกำลังใจแก่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเช้าวันนี้ (22 ต.ค.) แล้วนอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความชื่นชม ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานกันอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สรุปผลการประชุมกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) ที่ประเทศคูเวต ว่าทุกประเทศสมาชิกได้เห็นพ้องต้องกันในการส่งเสริมเศรษฐกิจ ลดปัญหาความยากจน การแก้ปัญหาภัยพิบัติ สร้างความมั่นคงอาหาร โดยจุดยืนของประเทศไทยที่ได้ประกาศในการประชุม คือ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่จะใช้เวทีภูมิภาคในการส่งเสริมการค้า การลงทุน เพื่อที่จะรองรับเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน

2.เรื่องการเชื่อมโยงในอาเซียนและเอเชีย โดยไทยเสนอเป็นผู้ประสานงานในจุดที่ต้องการความเชื่อมโยง ในฐานะที่ไทยมีบทบาทสูงในการประชุมเอซีดี ที่มีบทบาทในการประสานและได้รับความชื่นชมจากประเทศทั้งหลาย

3.เรื่องความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน ซึ่งประเทศเป็นจุดแข็งของอาเซียนที่มีความมั่นคงทางด้านอาหาร

ทั้งนี้ ไทยได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการประชุมเอซีดีปี พ.ศ. 2558 ด้วย พร้อมกันนี้ได้เสนอให้ประเทศไทยตั้งกองทุนเพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน ความยากจน และความมั่นคงทางอาหารของประเทศในเอเชีย โดยประเทศคูเวตเสนอจะมอบเงินจำนวน 300 ล้านเหรียญในการจัดสรรให้ลงในธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) โดยมีไทยเป็นผู้ประสานงานในการขอรับการสนับสนุน

น.ส.ศันสนีย์ กล่าวว่า นอกเหนือจากการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียไประเทศไทยยังได้มีโอกาสเจรจาทวิภาคีกับประเทศคูเวต ปากีสถาน อิหร่าน ศรีลังกา และทาจิกิสถาน โดยในประเทศคูเวตนั้นได้หารือในเรื่องท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การส่งเสริมการลงทุนในไทย และการแก้ปัญหาภาคใต้ ซึ่งประเทศคูเวตมีบทบาทอย่างมากในการประชุมองค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี)

ส่วนประเทศปากีสถานได้หารือในประเด็นอุตสาหกรรมรถยนต์ อัญมณี โครงสร้างพื้นฐาน และความมั่นคงทางอาหาร

กับประเทศอิหร่านได้หารือการค้าบาร์เตอร์เทรด ประเทศศรีลังกาหารือในประเด็นพระพุทธศาสนา เนื่องจากปีหน้าประเทศศรีลังกาครบรอบ260ปี การตั้งนิกายสยามวงศ์ ทั้งนี้นายกฯได้มอบให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายก และนางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ให้ประสานงานกับประเทศศรีลังกา พร้อมกันนี้จะประสานงานเรื่องโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ประเทศศรีลังกาสนใจด้วย

ส่วนประเทศทาจิกิสถานนั้นได้หารือเรื่องการท่องเที่ยว และการช่วยเหลือในการประชุมโอไอซี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ