ดังนั้นคณะกรรมาธิการทั้งสองจึงไม่เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรี และขอให้รัฐบาลได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้อยู่ยั่งยืน ควรระงับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ลงนามไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2554 เพื่อไม่ให้รัฐบาลไทยตกเป็นจำเลยของสังคมโลกหากมีความเสียหายเกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนไซยะบุรี และประการสำคัญรัฐบาลควรเร่งดำเนินการหารือกับรัฐบาลกัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศท้ายน้ำในการเจรจายุติปัญหาที่เกิดขึ้นโดยทันที
นายประสาร กล่าวว่า หากโครงการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรี ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประสบความสำเร็จโดยที่ไม่มีผู้ใดคัดค้าน ทั้งที่มีหลายหน่วยงานไม่เห็นด้วย ตนเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการก่อสร้างเขื่อนอีก 11 แห่งในบริเวณท้ายน้ำจะตามมาอย่างแน่นอน